สุขสันต์วันเกิด .. มักเน่แห่งชาติ เด็กน้อยกุมา
ผู้หญิงบ้าสุขภาพ เด็กศอกแหลม
ซอ จูฮยอน
26 มิถุนายน 2012
กลางดึกที่เงียบสงัดในห้องนอนที่ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายตามแบบฉบับของชายหนุ่ม ดวงตาคมมองหน้าจอเครื่องแมคบุ๊คตรงหน้าอย่างครุ่นคิด มือแกร่งเอื้อมไปหยิบแก้วไวน์ที่วางอยู่ไม่ไกลนักมาจิบเบาๆหากแต่ว่าดวงตายังคงจรดนิ่งอยู่กับหน้าจอขนาดสิบสามนิ้วที่ส่องแสงสว่างตรงหน้า เขานั่งอยู่อย่างนี้มานับหลายชั่วโมง จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรให้กับเธอในวันเกิดที่ใกล้เข้ามาทุกที การที่จะทำอะไรเพื่อให้เธอประทับใจและประหลาดใจดูจะยากขึ้นกว่่าคนปกติธรรมดาหลายเท่าตัวเนื่องจากการที่เขาและเธอเป็นไอดอลทำให้ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นจุดสนใจได้ .. และเหตุผลอีกประการที่สำคัญมากกว่าคือผู้หญิงของเขาขึ้นชื่อเรื่องความคิดที่แปลกประหลาดและไม่เหมือนใครเป็นที่สุด
เขาตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทหนึ่งในคยูไลน์เพื่อจะขอความเห็นแม้นาฬิกาจะบอกเวลาข้ามวันไปแล้วก็ตาม เจ้าพวกนี้นอนดึกอย่างกับอะไร ยิ่งไม่มีตารางทำงานแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ เหตุผลที่เขาจะไม่ได้คำปรึกษาน่าจะเป็นเพราะว่าเมาหนักเกินไปมากกว่าจะเป็นหลับไปแล้ว
“เฮ้ย มีเรื่องจะปรึกษาวะ” คยูฮยอนกรอกเสียงทุ้มไปตามทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรับโทรศัพท์
“ทำยังไงเธอถึงจะประทับใจวะ มันเป็นวันเกิดของเธอครั้งแรกตั้งแต่เราคบกัน .. ก็นั่นแหละ นายก็รู้ว่าเธอน่ะเหมือนใครที่ไหนกัน” เขาเอ่ยถามปลายสายพร้อมยกกับมือขึ้นยีผมอย่างคนขัดใจในคำตอบของอีกฝ่าย ชางมินตอบคำถามโลกแตกของเขาได้อย่างง่ายดายด้วยประโยคสั้นๆว่านายน่าจะรู้จักเธอดีที่สุด คำแนะนำแบบนั้นไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์การของเขาดีขึ้นเลย คยูฮยอนยังคงไม่มีความคิดดีๆว่าจะทำอะไรให้คนรักของเขา แต่อย่างน้อยชางมินก็พูดอะไรบางอย่างมาหลังจากนั้นที่ทำให้เขาคิดได้และสบายใจขึ้นกับวันสำคัญที่ใกล้เข้ามาทุกที
…สำหรับเธอแล้ว แค่มีนายอยู่ข้างๆก็น่าจะเพียงพอ นายก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือ
‘สำหรับเธอแล้ว แค่มีเขาอยู่ข้างๆก็เพียงพอ’อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่เขาไม่รู้ เขารู้ เพียงแต่เขาต้องการให้เธอได้มากกว่านั้น อยากจะทำวันสำคัญของเธอให้น่าประทับใจและน่าจดจำมากขึ้นไปอีกต่างหาก
คยูฮยอนนั่งนึกถึงเธอคนที่เป็นเสมือนลมหายใจ คนที่เข้ามาครอบครองทุกห้วงความคิดของเขาในตอนนี้ ตอนนี้เธอคงหลับสนิทเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยๆอย่างทุกครั้ง แค่เพียงคิดถึงเธอรอยยิ้มอบอุ่นก็กลับมาฉายอยู่บนดวงหน้าคมโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มตัดสินใจว่าพอแล้วสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้เขาต้องเตรียมตัวกับวันสำคัญของเธอ เขาจัดการปิดคอมพิวเตอร์คู่ใจก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม เพียงไม่นานเขาก็หลับสนิทไปพร้อมๆกับดวงหน้าหวานใสที่คอยมาวนเวียนอยู่ในความคิด
27 มิถุนายน 2012
เสียงเพลงธรรมชาติดังขึ้นเมื่อถึงเวลาเจ็ดนาฬิกาตรง เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆขยับลืมขึ้นอย่างช้าๆก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้นนั่งทันทีที่รู้สึกตัว อย่างเช่นทุกวันหญิงสาวตั้งนาฬิกาปลุกทุกๆเจ็ดโมงเช้าเพื่อจะตื่นมาอ่านหนังสือ เธอเอื้อมมือไปกดปิดเสียงเตือนก่อนที่มันจะรบกวนฮโยยอนให้ตื่นขึ้นมาก่อนเวลาที่ควรเป็น หญิงสาวพาร่างระหงเดินไปยังห้องนั่งเล่นโดยไม่ลืมหยิบหนังสือเล่มที่อ่านค้างไว้พร้อมโทรศัพท์คู่ใจไปด้วย ร่างน้อยในชุดนอนค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มมือก็ค่อยๆเปิดหนังสือออกอ่านทีละหน้าๆกี่ที่เธอจะค่อยๆก้าวเข้าไปสู่โลกของตัวหนังสือ
เสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นภายในห้องชุดขนาดใหญ่สุดหรูก่อนจะตามมาด้วยสาวๆทีละคนสองคน หญิงสาวปลุกตัวเองให้กลับมาสู่โลกของความจริงอีกครั้ง เธอมองอนนี่ที่เดินสวนกันไปมาอย่างสงสัย วันนี้ไม่มีตารางงานเพราะทุกคนตั้งใจจะอยู่รอลุ้นการเปิดขายซิงเกิลใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดญี่ปุ่น เนื่องจาก Paparazzi มีความเป็น J-Pop ชัดเจนกว่าทุกๆเพลงที่ผ่านมายิ่งทำให้น่าตื่นเต้นว่าเพลงนี้จะไปได้สูงสุดในตลาดญี่ปุ่นถึงแค่ไหน ถึงอย่างๆนั้นพี่ๆของเธอทุกคนเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้ พวกพี่สาวตื่นเช้ากว่าที่ควรจะเป็น ขนาดเจสสิก้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการนอนยังตื่นมาตั้งแต่ยังไม่เที่ยงโดยที่ไม่ต้องมีใครปลุก ซอฮยอนไม่ได้เอ่ยถามอะไร ได้แต่มองพี่ๆด้วยความสงสัยอยู่อย่างนั้น
หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะภายในห้องนอน สายตาทั้งเก้าคู่ต่างก็จับจ้องไปที่ภาพที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า วิดิโอเวลาหกนาทีเศษดึงดูดพวกเธอราวกับเป็นการดูมันครั้งแรก ต่างคนก็ต่างหยอกล้อแซวกันอย่างกับว่าหญิงสาวทั้งเก้าคนในวิดิโอไม่ใช่พวกเธอ เข้าไปดูตามเว็บไซท์เพลงอย่าง iTune และตามชาร์ทเพลงญี่ปุ่น อย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา…สาวๆก็มักจะสำรวจความคิดเห็นของแฟนๆที่มีกับเพลงและบางคนก็ตอบ UFO เพื่อทักทายแฟนๆอย่างสนุกสนาน
เวลาช่วงบ่ายของซอฮยอนเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับพี่ๆเกี่ยวกับผลงานใหม่ของวง ความยินดีฉายชัดเต็มใบหน้าเมื่อเห็นผลตอบรับทั้งยอดการเข้าชมวิดิโอที่พุ่งพรวดพร้อม และคำนิยมมากมาย รวมไปถึงยอดขายที่ทางต้นสังกัดโทรมาแจ้งให้ทราบ พวกเธอรู้ดีว่าเวลาของการทำงานหนักกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เพราะหลังจากการออกซิงเกิลที่ญี่ปุ่นก็จะมีการ comeback ในเกาหลีอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเธอยินดีที่จะยอมรับเพื่อแลกกับการได้มีความสุขร่วมกับเหล่าโซวอนและได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันครบทั้งเก้าคน ซอฮยอนมองภาพตรงหน้าที่พี่ๆต่างก็แย่งกันพูดคุยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก่อนที่รอยยิ้มจะค่อยๆจางลงไปเมื่อนึกถึงใครบางคน .. คนที่ปรกติจะโทรมาเป็นคนแรกหลังจากที่มีผลงานของเธอออกไป ไม่ว่าจะเป็นเพลง PV โฆษณาหรือแม้แต่การถ่ายแบบ แต่วันนี้จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไม่ได้รับสายแม้เพียงสายเดียวจากเขา
…เป็นอะไรไปนะ วันนี้อปป้าน่าจะว่างไม่ใช่หรือ
หลังจากบทสนทนาที่เต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้ม สาวๆต่างก็ทยอยๆออกจากบ้านด้วยข้ออ้างต่างๆกันไป ยุนอาบอกกับเธอว่าจะไปหาทงเฮ เจสสิก้ากับยูริเลยตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมพี่ๆ Super Junior ที่หอด้วย ซันนี่และฮโยยอนนัดประชุมเกี่ยวกับการถ่ายทำ Invisible Youth เช่นเดียวกับซูยองที่มีประชุมกับทีมงานรายการ SBS Midnight TV Entertainment ส่วนทิฟฟานี่และแทยอนเองอยู่ดีๆก็บอกว่าจะออกไปซื้อของ สุดท้ายคงเหลือน้องเล็กคนงามอยู่เพียงลำพังในห้องชุดอันใหญ่โต
ร่างโปร่งบางยืนโบกมือลาให้กับพี่สาวทั้งสองก่อนจะปิดประตูลงช้าๆ ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเดินไปไหนไกลเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ‘อนนี่คงลืมของ’ นั่นคือความคิดแรกที่เข้ามาให้หัว เธอหันหลังกลับไปเปิดประตูพร้อมรอยยิ้มกว้างด้วยนึกว่าเป็นพี่ๆจนลืมคิดไปว่าพี่ๆของเธอเองก็รู้รหัสเข้าห้อง ไม่จำเป็นต้องเคาะประตูให้เจ็บมือ ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นสงสัยทันทีที่เห็นบุรุษที่อยู่หลังประตูบานนั้น
“อปป้า!” เสียงใสร้องขึ้นอย่างประหลาดใจที่คนที่เธอคิดถึงอยู่เมื่อครู่กลับมาโผล่อยู่ตรงหน้า
“จะไม่ให้อปป้าเข้าไปข้างในหน่อยหรือยังไงกัน” ชายหนุ่มถามพร้อมส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมาให้เธอ ซอฮยอนได้ยินจึงรู้สึกตัวดึงประตูห้องออกกว้างขึ้นพร้อมกับยืนหลบให้เขาเดินเข้ามา
หญิงสาวเปิดประตูห้องแล้วจึงเดินตามเขาเข้าไปช้าๆ ก่อนจะแยกไปในส่วนที่เป็นห้องครัวเพื่อนำน้ำดื่มออกมาให้เขา ชายหนุ่มนั่งอย่างผ่อนคลายอยู่บนโซฟาตัวนุ่ม เขาดูสบายเกินไปจนดูเหมือนเป็นเจ้าของห้องยังไงอย่างงั้น เขาดูน่าดึงดูดในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงโทนสีอ่อนสบายตา ผมที่เพิ่งตัดได้รับการจัดแต่งทรงอย่างดี ไม่ปล่อยยุ่งเหยิงอย่างทุกครั้ง
“จากนี้ไปอีก 24 ชั่วโมง อปป้าขออยู่ที่นี่นะ” เขาพูดราวกับเป็นเรื่องง่ายๆที่ไอดอลชายจะค้างอ้างแรมในหอพักของไอดอลหญิง แถมไอดอลหญิงคนนั้นยังมีเพื่อนร่วมวงที่พักอยู่ด้วยกันอีกถึงแปดคน มันง่ายไปไหม
“เห จะอยู่ยังไงล่ะค่ะ .. เดี๋ยวอนนี่ก็กลับมา” เธอย้อน
“อยู่ได้ล่ะน่า” ชายหนุ่มตัดบทก่อนที่จะตบเบาะข้างๆเป็นสัญญาณให้เธอมานั่งข้างๆเขา ซอฮยอนยิ้มบางๆพร้อมกับส่ายศรีษะอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งเคียงข้างร่างสูงนั้น
เขาและเธอใช้เวลาทั้งบ่ายไปกับการดูหนัง หาเกมสนุกๆมาเล่น พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันราวกับว่าไม่ได้คุยกันอยู่ทุกวัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะแสดงฝีมือทำอาหารมื้อเย็นอย่างทุลักทุเล
หญิงสาวมองคนที่ดูงกๆเงิ่นที่ยืนอยู่ในครัวขนาดใหญ่ ใครก็รู้ว่าเขากับการทำอาหารคือหายนะ ภาพชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆหยิบนั่นผสมนี่ทั้งที่มือก็กางโพยที่ได้มากจากพี่สาวสุดรักทำเอาซอฮยอนอดไม่ไหวต้องหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอ่ยเสนอความช่วยเหลือแต่ก็ได้รับคำปฏิเสธเสียงแข็ง
‘ถ้าเธอทำแล้วมันจะเป็นของขวัญวันเกิดได้อย่างไร’ เขาคิดอย่างนั้น ทั้งๆที่คนที่จะได้รับของขวัญเองก็ยังไม่ทันจะรู้ตัว
ชายหนุ่มลำเลียงข้าวเปล่า ชิเกะ ทัคคาลบิพร้อมด้วยเครื่องเคียงคือกิมจิ มาวางบนโต๊ะอาหาร ควันฉุยจากอาหารยิ่งทำให้กับข้าวมื้อนี้ดูน่ารับประทาน ชายหนุ่มกอดอกมองที่อาหารตรงหน้าอย่างภูมิใจ
…เราก็มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารเหมือนกันนะเนี่ย
“ชิมสิ เอาเลย” เขาเอ่ยชวนหญิงสาว มือหนาเลื่อนจานอาหารไปให้ใกล้เธอยิ่งขึ้นเพื่อให้เธอตักได้ถนัด ดวงตาคมมองมือน้อยที่ค่อยๆตักชิเกะเข้าปากอย่างลุ้นจนแทบจะลืมหายใจ
“เป็นยังไงบ้าง ซอฮยอนนี่ .. อร่อยไหม” เขาถาม
“อร่อยค่ะ อปป้า!” หญิงสาวตอบพร้อมส่งรอยยิ้มหวานมาให้ แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่เชื่อ เขาตักชิเกะคำโตเข้าปากก่อนจะอึ้งไป
…นี่มันอร่อยตรงไหนกัน
…แต่ที่ชิมเมื่อกี้รสชาติมันกินได้กว่านี้นี่นา
“เธอไม่ต้องฝืนกินหรอกซอฮยอน เราสั่งอาหารมากินกันดีกว่า ส่วนไอ้ชิเกะประหลาดนั่นเธอก็ทิ้งไปซะ” เขาพูดขึ้นหลังจากตั้งสติได้ว่ารสชาติชิเกะฝีมือเขามันประหลาดจนเกินรับได้ มือหนาเอื้อมหยิบชามอาหารตรงหน้าเพื่อจะยกไปทิ้งเป็นเศษอาหาร หากแต่มือน้อยหยุดเขาไว้เสียก่อน
“ไม่ค่ะ ก็เค้าอยากกินนี่นา .. อาหารฝีมืออปป้าอร่อยสำหรับเค้านะ ก็อปป้าตั้งใจทำออกขนาดนี้จะทิ้งได้ยังไงล่ะคะ” ซอฮยอนค้าน หญิงสาวเดินเข้าไปในครัวหยิบเครื่องปรุงออกมา เธอเติมนั่นนิดนี่หน่อยก่อนจะตักขึ้นมาป้อนให้เขาชิมอีกครั้ง ดวงตาคมเบิกโตอย่างยินดี ชิเกะฝีมือเขาไม่ต้องไปนอนแอ้งแม้งในถังขยะแล้ว หญิงสาวแก้ไขจนรสชาติออกมาดีอย่างไม่น่าเชื่อ เขามองคนตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจ ผู้หญิงของเขา…คนที่เขาเลือกพร้อมไปด้วยหน้าตาสวยงาม เรือนร่างที่แสนวิเศษ ความสามารถและสมองที่ชาญฉลาด การบ้านการเรือนไม่ขาดตกบกพร่อง เธอเพียบพร้อมขนาดนี้ ยังไงเขาก็เลือกคนไม่ผิด
มื้อเย็นที่แสนเรียบง่ายผ่านไปอย่างราบรื่นหลังจากที่ซอฮยอนเปลี่ยนจากวิกฤตทางอาหารให้เป็นโอกาสได้ ทั้งสองยังคงใช้เวลาลำพัง เวลาที่แสนธรรมดาสำหรับบางคนกลับเป็นชั่วเวลาที่แสนวิเศษจนเขาและเธออยากจะหยุดเวลาไว้อย่างนั้น ความเป็นจริงที่ว่าเขาและเธอกำลังจะมีงานรัดตัวอีกครั้งและอาจจะไม่ได้พบกันแบบนี้ทำร้ายเธอไม่น้อย การออกซิงเกิลใหม่ที่ญี่ปุ่น การ Comeback ของเขาและของเธอ ทำให้รู้โดยที่ไม่ต้องบอกว่ากว่าจะได้มีเวลาว่างนั่งอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันแบบนี้คงไม่ได้ทำได้ง่ายๆอีกต่อไป
ระหว่างที่เธอขอตัวไปอาบน้ำ ชายหนุ่มหยิบรีโมทค่อยๆเปลี่ยนช่องเพื่อหารายการที่น่าสนใจก่อนจะหยุดลงที่รายการนึงด้วยขี้เกียจจะพยายามหา เขายืดตัวไปตามแนวยาวของโซฟาเพื่อคลายความเมื่อยล้าก่อนจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ซอฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ เธอไม่กล้าใส่ชุดนอนแบบปกติเนื่องจากชุดนอนของเธอมันเปิดเผยเกินกว่าที่จะใส่ตอนอยู่กับเขา ตอนนี้เขายังอยู่ แถมยังดูเหมือนจะจริงจังเรื่องค้างคืนเสียด้วย หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ร่างสูงที่หลับสนิทอยู่บนโซฟาจนเธอนึกแปลกใจว่าตัวเองอาบน้ำนานขนาดที่เขาหลับได้ขนาดนี้เลยหรือ ร่างระหงทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างๆ ดวงตาจรดนิ่งอยู่กับดวงหน้าที่ราวกับเทพบุตร แม้จะมีรอยแผลจากอุบัติเหตุแต่ก็ยังชวนมอง ซอฮยอนยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเขาเบาๆ
“ขอบคุณนะคะอปป้า ถึงวันเกิดเค้าจะเป็นวันพรุ่งนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดเลย” เธอจรดริมฝีปากบางลงบนแก้มสากของเขาเบาๆก่อนจะถอนออกมาแล้วจรดลงอีกครั้งที่ริมฝีปากหนา
จูบที่น่าจะไม่มีอะไรกลับกลายเป็นดูดดื่มเมื่อชายหนุ่มกลับกลายเป็นผู้นำทั้งๆที่ร่างสูงยังนอนอยู่บนโซฟา ลิ้นร้อนสอดแทรกไปในโพรงปากอย่างชำนาญ เขาตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงเธออยู่ข้างหูแต่อยากจะรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไปจึงแสร้งนอนหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเธอเริ่มต้นจูบแผ่วเบา คนที่แกล้งหลับก็ไม่สามารถทนนิ่งอยู่ได้อีกต่อไป มือหนาจับที่ท้ายทอยของเธอไม่ให้ถอยหนีในขณะที่มืออีกข้างโน้มตัวเธอลงมากอดแน่นจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน
มือร้อนของเขาค่อยๆไล้ไปตามเรือนร่างสวยจนหญิงสาวใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก เขาถอนจูบออกก่อนจะจูบเธออีกครั้ง ครั้งนี้จูบของเขาแตกต่างไปจากทุกครั้ง เธอสัมผัสได้ถึงความรักอย่างไร้เงื่่อนไข จูบที่ไม่ได้เต็มไปด้วยความเรียกร้องรุนแรงแต่กลับมีความปรารถนาซ่อนอยู่ จูบที่ไม่เร่งเร้าแต่กลับทำให้เธอหลงไหล จูบที่ไม่ใช่แค่อารมณ์รักแต่กลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก จูบของเขาทำให้หัวใจเธอแทบจะหลุดลอยแต่ก็ยังรู้สึกถึงความมีชีวิต
“พี่รักเธอ ซอฮยอนนี่” เขาพูดเสียงเบาหวิวก่อนจะลุกขึ้นรวบตัวเธอขึ้นมาอุ้มเข้าไปในห้องนอนของหญิงสาว
ชายหนุ่มยกร่างบางราวกับว่าเธอเบาเหมือนปุยนุ่น เขาวางเธอลงบนที่นอนสีขาวอย่างทนุถนอมและยังคงจูบครั้งแล้วครั้งอย่างไม่อาจะถอน มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีสวยก่อนจะสัมผัสที่ก้อนเนื้อหยุ่นมือ เขาไล่จูบลงมาตามลำคอระหง หญิงสาวในตอนนี้แทบจะหมดแรงไปกับรสสัมผัสแปลกใหม่ที่เธอได้รับ ซอฮยอนไม่เคยใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มแสดงความรักกับเธอมากไปกว่าการกอดจูบธรรมดา แต่ที่เธอทำให้เธอตกใจคือเธอเองก็ชอบการบอกรักของเขาอย่างนี้เช่นกัน
ชายหนุ่มหยุดที่หน้าอกอวบอิ่มก่อนจะจูบเบาๆผ่านผ้าคอตต้อนเนื้อดี มือที่อยู่ภายใต้เสื้อสีสดใสยังคงทำงานของมันอย่างช่ำชอง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ภายใต้สัมผัสลึกล้ำของเขาจนยากจะควบคุม หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ท้องปั่นป่วนด้วยความตื่นเต้นเหมือนมีผีเสื้อนับพันบินอยู่ในนั้น มือหนาส่งผ่านความร้อนไปทุกที่ที่เขาลากผ่าน
หญิงสาวรวบรวมความกล้าเอื้อมมือไปที่หน้าอกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว มือน้อยๆของเธอสัมผัสที่รอยแผลเป็นที่เขาได้มาจากการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตเขาจากอุบัติิเหตุครั้งนั้น เธอลูบมันเบาๆก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนรอยแผลนั้น
“ซอฮยอน-อาห์ เธอทำแบบนี้ อปป้าจะไม่ไหวเอานะ” เขาพูดเสียงแปร่งปร่าอย่างพยายามสะกดกั้นอารมณ์ ชายหนุ่มไม่ได้คิดฝันว่าจะมาไกลถึงขนาดนี้ แต่เพราะเธอ…แค่เป็นเธอก็ทำให้เขาทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว ดวงหน้าบริสุทธิ์สดใสแต่แฝงไปด้วยเรือนร่างเย้ายวนใจ สมบูรณ์พร้อมอย่างที่สตรีพึงมี เขารู้ตั้งแต่ยังไม่ได้สัมผัส จนเมื่อได้สัมผัสก็ยิ่งยากจะห้ามใจ
ดวงตากลมโตมองเขาอย่างสงสัยในคำพูด แต่นั่นกลับเหมือนการทรมานเขาทั้งเป็น ความตั้งใจของเขาที่จะเก็บคืนพิเศษไว้ในวันแต่งงานขาดผึง ชายหนุ่มคว้าร่างบางมากอดพร้อมมอบจูบดูดดื่มอีกครั้งและอีกครั้ง มือร้อนลูบไล้อย่างเอาแต่ใจไปตามผิวลื่นราวกับผ้าไหมชั้นดีจนเธอแทบจะกลั้นใจสะกดอารมณ์ไว้ไม่ให้ปลดปล่อยออกมา
Rrrrrrrrr~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉุดทั้งครู้ขึ้นจากอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปไกลลิบ เขาสบถเบาๆก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกางเกงออกมากดรับสายทั้งๆที่ในใจอยากจะโยนทิ้ง
“อปป้า เป็นยังไงบ้างคะ พวกเราเป็นน้องที่ดีใช่ไหมล่ะ” ฮโยยอนแสนขี้เล่นทักมาตามสายโดยไม่ทันได้สังเกตน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของรุ่นพี่ร่วมค่าย
ซอฮยอนลุกขึ้นหันหลังให้กับชายหนุ่ม เธอจัดเสื้อผ้าและผมของเธอให้กลับเป็นปกติ ตอนนี้หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ทั้งกลัวความรู้สึกตัวเองที่เพิ่งได้เรียนรู้ อายคนรักกับการตอบสนองอย่างไร้สติ และหวั่นใจว่าเขาจะมองเธอเปลี่ยนไป จากสาวน้อยสดใสกลายเป็นหญิงสาวมีมลทิน
“พวกนั้นอยากจะวิดิโอคอลกับเธอน่ะ” เสียงของเขาดึงเธอขึ้นมาจากความคิดที่ตีกันวุ่นไปหมด ชายหนุ่มดึงเธอมานั่งข้างกายบนเตียงหนาก่อนจะกดปุ่มเริ่มวิดิโอคอล หญิงสาวไพล่คิดไปถึงสิ่งที่เพิ่งผ่านไปชั่วครู่ก็กลับร้อนผ่าวที่หน้า
“จูฮยอน-อาห์ เป็นอะไรไป เป็นไข้หรือเปล่าถึงได้หน้าแดงแบบนั้น” ทิฟฟานี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าแววตาห่วงใยอย่างสุดซึ้ง
“หรืออปป้าทำอะไรเธอ” ฮโยยอนหยอกเย้าอีกครั้งแต่กลับยิ่งทำให้ดวงแก้มใสแดงยิ่งขึ้นราวกับสตรอว์เบอร์รี่
“ย่าห์! ย่าห์! พวกเธอ ฉันก็อยู่นะ!” เขาชี้นิ้วไปที่คนฝ่ายตรงข้ามจอนั้นอย่างคาดโทษ
“ก็แค่ล้อเล่นล่ะน่า อย่างอปป้าน่ะ….ไม่มีน้ำยาหรอก” ยุนอาพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะอ้าปากกว้างตามแบบฉบับของอิม ยุนอาก่อนที่เธอจะโดนผลักออกไปโดยลีดเดอร์ตัวน้อยจนต้องดันตัวกลับเข้ามาอยู่ในจอเล็กอีกครั้ง
“จูฮยอน วันนี้พวกอนนี่ไม่กลับบ้านนะ .. เพราะว่านี่ก็จวนจะเที่ยงคืนแล้วแต่อนนี่อยากให้เธอได้ใช้เวลากับอปป้าฉลองกันสองคนตอนนั้นเลยโทรมาหาเธอก่อน” แทยอนพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่นผ่านอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่ย่อโลกให้เล็กลง จากนั้นสาวๆทั้งแปดคนก็ส่งทั้งเสียงและท่าทางพร้อมกัน “Happy Birthday ซอ จูฮยอน”
“เธอชอบของขวัญของอนนี่ใช่ไหมล่ะ”
“พรุ่งนี้เราเป่าเค้กด้วยกันนะซอฮยอน”
“มีความสุขมากๆน้าาา ซอฮยอน-อาห์”
“เป็นสาวแล้วนะมักเน่! รวบรัดอปป้าไปเลย!”
“ย่าห์! เธอนี่ ไม่ได้นะจูฮยอน อย่าให้อปป้าทำอะไรไม่ดีนะ”
เสียงสาวๆแย่งกันพูดจนฟังแทบจะไม่ศัพท์จบลงที่แทยอนพี่ใหญ่ของวงดึงโทรศัพท์ออกมาพูดคนเดียวท่ามกลางเสียงเจื้อยแจ้วด้านหลัง “แค่นี้แล้วกันนะจูฮยอน เจ้าพวกนี้จะตีกันตายเพราะจะแย่งคุยกับเธอแล้ว พี่ต้องไปจัดการก่อนละ บ๊ายบาย”
รอยยิ้มกว้างฉายอยู่บนดวงหน้าใส หญิงสาวค่อยๆก้มหน้าลงอย่างเขินอายเมื่อนึกได้ว่ามีเพียงเขาและเธออยู่กันสองต่อสองอีกครั้ง ดวงตาคมมองแก้มแดงระเรื่ออย่างหลงไหลก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนพวงแก้มนุ่มแล้วตามด้วยกลุ่มผมที่หอมแชมพูอ่อนๆ
“ต่อไหม” เขาถามอย่างหยอกเย้า ส่งสายตาเจ้าเล่ห์อย่างหมาป่าจ้องจะตะครุบลูกแกะน้อย “เมื่อกี้แค่ลงโทษเรื่องโฆษณาบ้าๆนั่นเอง ยังไม่ทันได้ให้ของขวัญวันเกิดเธอเลย รับร้องเธอต้องชอบ”
“อปป้า!” ซอฮยอนโวยลั่นเมื่อได้ยิน ดูเอาเถอะคนเรา .. เกรียนไม่เลือกเวลา แม้กระทั่งเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มก็ยังจะเกรียน
“เค้าล้อเล่นหรอกน่า” เขาตอบก่อนจะคว้าร่างบางร่างบางมากอดอย่างแสนรัก “อปป้าตั้งใจว่าจะให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เรื่องของเรามันไม่จำเป็นต้องเร่งรัดไม่ใช่หรือ”
ถึงจะพูดอย่างนั้น มือหนากลับสอดเข้าไปใต้ผ้าคอนต้อนเนื้อดีอีกครั้งพร้อมกับลูบไล้ที่หลังนวลเนียน ดวงตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่าเปี่ยมด้วยความรัก
“อปป้า!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อได้รับสัมผัสที่ทำให้ใจหวิวอย่างไม่น่าไว้ใจอีกครั้ง
“นิดหน่อยนะซอฮยอนนี่ อปป้าสัญญาจะไม่เกินเลยจนกว่าจะถึงเวลาที่เราสองคนพร้อม” เสียงทุ้มพูดตอบ ดวงตาคมมองเข้าในดวงตากลมใสด้วยความรักเปี่ยมล้น ซอฮยอนได้แต่ก้มหน้างุดหลบสายตาจากเขาก่อนจะพยักหน้าเบาๆทำเอาคนตัวใหญ่กว่าหัวเราะในท่าทางอันน่ารักของเธอ
คืนนั้นทั้งสองหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน ชายหนุ่มได้ให้ของขวัญที่แสนวิเศษแก่เธอคือการอยู่ร่วมกัน ยิ่งกว่านั้นเขายังแสดงให้เธอเห็นว่าเธอมีค่าและจริงจังกับเธอมากกว่าเพียงแค่คบไปวันๆ แต่กลับมองไปถึงอนาคต .. อนาคตของเขาและเธอ เท่านั้นก็มากเกินกว่าที่เธอต้องการแล้ว
28 มิถุนายน 2012
เขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยจากคนในอ้อมกอด คยูฮยอนลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังหลับสนิทเหมือนกับเด็กน้อยๆก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยวคืนตรง ร่างสูงก้มลงมองใบหน้าใสไร้เครื่องสำอางพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา “Happy Birthday ที่รักของพี่”
ร่างเล็กขยับเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของเขาตามประสาคนประสาทสัมผัสไว เธองัวเงียถามทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา “อะไรนะคะอปป้า”
“ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะ” เสียงทุ้มตอบอย่างอบอุ่นพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ทั้งสองหลับสนิทจนเมื่อเสียงจากภายนอกที่บอกถึงเวลาเช้าเริ่มดังขึ้น นกตัวน้อยส่งเสียงจิ๊บๆดังเข้ามาถึงภายในห้องนอน แสงแดดอ่อนๆยามเช้าค่อยๆส่องเข้ามายังห้องที่เขาและเธอนอนตระคองกอดกันอย่างอบอุ่นบนเตียงสีขาว คยูฮยอนค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆเพื่อพบว่าร่างนุ่มนิ่มที่อยู่ในอ้อมกอดของเขายังหลับสนิท ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือตอนเจ็ดโมงเช้าอย่างทุกวัน เขาลุกขึ้นอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้หญิงสาวที่หลับสนิทนิ่งราวกับตุ๊กตาเกาหลีตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับอยู่ร่างสูงจึงค่อยๆเดินย่องออกไปยังห้องครัว เขาค่อยๆเปิดประตูเย็นก่อนจะหยิบเอากล่องกระดาษกล่องเล็กที่ติดสินบนรุ่นน้องให้เอามาแอบไว้ไม่ให้เจ้าของวันเกิดได้รู้ตัว มือหนาค่อยๆแกะกล่องกระดาษเผยให้เห็นเค้กผลไม้ขนาดเล็กแลดูน่ารักประทานแล้วจัดแจงหยิบวางลงบนจานสีสวยก่อนจะยกเข้าไปในห้องนอน
ชายหนุ่มถือเค้กไว้ที่มือหนึ่งแล้วใช้อีกมือปลุกคนที่ยังหลับสนิท ดวงตากลมโตลืมขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ยังมึนงง คยูฮยอนมองภาพตรงหน้ายิ้มๆ บางครั้งความสุขก็หาได้ง่ายเหลือเกิน เขาจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปางสีชมพูก่อนจะยื่นเค้กจานน้อยมาตรงหน้าคนที่ยังตื่นไม่เต็มตา
“อรุณสวัสดิ์ค่ะเจ้าของวันเกิด”
ของขวัญวันเกิดของเธอปีนี้คือการอยู่ด้วยกันหนึ่งวัน หลับและตื่นมาในอ้อมกอดของกันและกันอย่างนี้เป็นสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด และเขาเองก็คิดว่าเธอชอบมันเช่นกัน เขามองดวงหน้าไร้ที่ติแม้จะเพิ่งตื่นนอนอย่างเปี่ยมด้วยความรัก ซอฮยอนยิ้มให้เขาอย่างสุดหัวใจ เท่านั้นเขาก็รู้ได้ว่าของขวัญชิ้นนี้ถูกใจคนรับที่สุด
แผนการของคยูฮยอนในการฉลองวันเกิดที่แสนจะประทับใจให้เธอเสร็จสมบูรณ์ เขาเองได้แต่หวังว่าจะได้มีเธออยู่เคียงข้างอย่างนี้ในทุกๆวัน ไม่ใช่เพียงแค่ในวันเกิด .. เขาจะรอจนถึงวันนั้น วันที่เขาและเธอพร้อมจะกลายเป็นเราอย่างสมบูรณ์ .. เขาจะรอ