[Special Project – Kyuhyun Seohyun] Valentine Cupid

ภายในห้องสีขาวที่เต็มไปด้วยจิตกรรมฝาผนังสีสันหลากสีโย้ไปเย้มาราวกับเป็นศิลปะแบบ Abstract ตกแต่งเครื่องเรือนขนาดเล็กสีชมพูไล่โทนตั้งแต่ชมพูอ่อนแบบ pastel ไปจนถึงชมพู shocking pink สุดจะแสบตา ตุ๊กตาและของเล่นจำนวนมากถูกวางเรียงไว้ที่มุมเล็กๆซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นมุมให้เด็กน้อยได้เล่นอย่างสร้างสรรค์ได้เต็มที่ สีทั้งสีเทียน สีเมจิก และสีไม้วางรวมอยู่ในกล่องใบใหญ่บนโต๊ะพลาสติกขนาดจิ๋ว ไม่ไกลนักเก้าอี้ขนาดเดียวกันสองตัววางอยู่คู่กัน บนเตียงสีเสาขนาดเล็กสีชมพูดอ่อนสบายตาชายหนุ่มนอนเอนร่างสูงใหญ่เกินเตียงอยู่เคียงข้างเด็กน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู ชายหนุ่มปิดหนังสือนิทานในมือหลังจากที่เพิ่งเล่าเรื่องราวมหัศจรรย์ของเทพนิยายที่จบลงอย่างน่าประทับใจให้กับลูกสาวคนเดียวฟังก่อนนอนเช่นทุกวัน

“อัปป้า อมม่าอยู่ที่ไหนคะ” เด็กน้อยเอ่ยถาม ดวงตากลมโตพราวระยิบด้วยความใคร่รู้ เธอเห็นเพื่อนทุกคนมีคุณพ่อคุณแม่มาส่งอยู่บ่อยๆ แต่ตัวของเธอเองกลับไม่เคยเห็นมารดาแม้ซักครั้ง

“อมม่าอยู่บนสวรรค์ค่ะลูก” ร่างสูงใหญ่ตอบคำถามลูกสาวตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม เขารู้ดีว่าวันหนึ่งเธอจะต้องมีคำถามแบบนี้และเขาก็เตรียมรับมือไว้ตลอด ติดอยู่ตรงที่ว่าเขาไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้

“อัปป้า ซองอึนจะได้เจออมม่าไหมคะ” เด็กหญิงยังคงตั้งคำถามอย่างสงสัย สวรรค์ที่คุณพ่อบอกอยู่ที่ไหนกัน ไกลมากหรือเปล่า ถ้าไกลแล้วตอนนี้คุณแม่ของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง .. หากเดินทางมาที่นี่ยาก ถ้าอย่างนั้นซองอึนกับอัปป้าควรจะไปหาอมม่าแทนไหมนะ

“ต้องได้เจอสิคะ ซักวันนึงซองอึนต้องได้เจออมม่าแน่นอน” เขาตอบอย่างมั่นใจทั้งๆที่ยังไม่รู้ถึงอนาคต .. แม่ของซองอึน ภรรยาของเขา จากไปนานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคยูฮยอนก็ไม่เคยคิดจะหาแม่คนใหม่ให้กับลูก เขารักเธอและจะรักเธอตลอดไป เขาจะสอนให้ลูกรู้จักความรักที่ยิ่งใหญ่ที่พ่อกับแม่มีให้กัน เขาจะสอนให้ลูกรู้จักความเชื่อที่แน่วแน่ของพวกเขา .. ซักวันนึงพวกเขาต้องได้พบกัน ซักวันนึงครอบครัวต้องกลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง

ชายหนุ่มลุกขึ้นจัดผ้าห่มขึ้นคลุมร่างน้อยแล้วจึงหอมหน้าผากกลมมนเบาๆ เขายิ้มให้ลูกสาวอย่างอบอุ่นก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์ ประตูไม้ค่อยๆปิดลงช้าๆ แสงไฟที่ลอดผ่านประตูค่อยๆหายไปคงเหลือเพียงแต่ความมืดมิด เด็กน้อยขยับตัวลุกขึ้นนั่ง สองมือเล็กๆกุมอยู่ที่หน้าอกพร้อมกับเอ่ยคำอธิฐานออกมาเบาๆ

“พระเจ้าคะ ถ้าพระเจ้ามีจริง ช่วยพาอมม่ามาหาอัปป้าด้วยนะคะ”

“เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหมเฮ” เสียงหญิงสาวหวานแหลมฟังแล้วเย็นเยียบจับใจดังขึ้น “เจ้าต้องทำให้คำอธิษฐานที่โจว ซองอึนขอเป็นจริง หาคู่แท้ของโจว คยูฮยอนและผูกด้ายแดงให้กับเขา”

ร่างบางในเอ่ยขึ้น หญิงสาวใส่ชุดสีขาวพริ้วไหวราวกับต้องลมอ่อนๆ ใบหน้าสวยหวานราวกับตุ๊กตาชั้นดีและผมสีบลอนด์ขับให้เธอเปล่งประกายเจิดจ้าจนชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยต้องหยีตาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสีขาวบนนี้ เฮแตกต่างกับคนที่อยู่บนนี้ เขาเป็นเดวิลเกือบตลอดชีวิตของเขา เขาคุ้นชินกับชุดทำงานสีแดงแรงฤทธิ์มากกว่าชุดสีขาวสว่างของนางฟ้าที่พอสะท้อนแสงสวรรค์แล้วแสบตาเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะหยิบแว่นกันแดดออกมาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด .. เท่าที่เขาจำได้ 210 ปีบนนี้เขาใช้ชีวิตเป็นเดวิลคอยลงโทษพวกมนุษย์แสนเกเร ส่วนเรื่องก่อน 25 ปีก่อนที่เขาจะมาเป็นเดวิลนั้น เฮไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งของความจำเลยแม้แต่น้อย เกือบตลอดชีวิตของเขาเป็นคนลงทัณฑ์ทั้งๆที่ลึกๆแล้วเขากลับอยากเป็นผู้ให้พรมากกว่า เมื่อโอกาสมาถึงเขาจึงขอร้องนางฟ้าเจสสิก้า นางฟ้าบรรดาศักดิ์สูงอายุกว่า 500 ปีให้รับเขาเข้าเป็นคิวปิด และภารกิจนี้จะเป็นภารกิจแรกของเขาในฐานะผู้ให้พร .. ชายหนุ่มผู้พร้อมด้วยใบหน้าสมบูรณ์แบบมองนางฟ้าแสนงามตรงหน้าด้วยรู้ว่าเธอมีสิ่งอื่นที่จะพูดต่อ

“เจ้าสามารถทำให้สองคนมาพบและช่วยให้เขารักกันได้ แต่มีข้อแม้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจะไม่สามารถบังคับหรือใช้เวทมนต์พวกเขาให้รักกันหรือหมดรักกัน และห้ามเด็ดขาดที่จะใช้เวทมนต์ขัดขวางการทำงานของคิวปิดองค์อื่น” เสียงหวานๆพูดต่อ ดวงตาคู่สวยมองจรดนิ่งชายผู้มีจิตใจงดงามตรงหน้า “หากเจ้าทำได้ก่อนวาเลนไทน์ เจ้าจะได้ย้ายงานจากเดวิลมาเป็นคิวปิดฝึกหัดเต็มตัว”

เฮก้มลงมองร่างในชุดสีแดงของตัวเอง งานนี้เขาจะพลาดไม่ได้ เขาต้องหาแม่ให้ซองอึนเพื่อที่เขาจะได้เป็นคิวปิดฝึกหัดและได้เปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นสูทสีขาวอย่างเช่นเทพองค์อื่นบ้างคงจะดี

…คงจะเท่ไม่เบาเลยนะเรา หึหึหึ

คิวปิดทดลองงานเดินเข้าห้องนู้นออกห้องนี้ในบ้านหลังเล็กอย่างใจเย็นด้วยรู้ว่าไม่มีมนุษย์ผู้ใดสามารถเห็นร่างของเขาได้ เขาสำรวจที่ที่เขาจะต้องมาใช้เวลาอยู่ด้วยซักระยะด้วยภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ชายหนุ่มพาตัวเองเข้ามาในห้องครัวขนาดย่อยก่อนจะเปิดประตูตู้เย็นหยิบเอาแอ็ปเปิลสีแดงสดเข้ากับสีเสื้อของเขามากัดคำโต

“คุณลุง .. คุณลุงคือใครเหรอคะ เข้ามาในบ้านของซองอึนทำไม”

ร่างสูงในชุดสีแดงทั้งตัวหันมองซ้ายขวาเพื่อหาที่มาของเสียงจนพบเข้ากับเด็กหญิงหน้าตาน่ารักที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยแววตาฉงน เฮขัดใจลึกๆเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กหญิงเรียกเขา .. ลุงงั้นเรอะ!?!?!

“เจ้าเด็กเมื่อวานซืน มาเรียกฉันว่าคุณลุงได้ยังไง .. ฉันน่ะว่าที่คิวปิดเชียวนะ” เขาโวยวายเสียงดังลั่น

“คุณลุงจะเป็นคิวปิดได้ยังไงคะ คิวปิดเค้าต้องเป็นเด็กมีปีกน่ารักๆสิคะ แต่นี่ …”

“แต่อะไร” เขาขัดขึ้นทั้งๆที่เด็กหญิงยังพูดไม่ทันจบประโยคดี

“ใส่ชุดแดงอย่างกับเดวิล แบร่~!” ซองอึนกล่าวตอบอย่างไม่กลัวชายหนุ่มแปลกหน้าพร้อมกับแลบลิ้นให้เมื่อจบประโยค เท่าที่เด็กน้อยรู้คิวปิดไม่ควรจะมีรูปพรรณสันฐานแบบนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ชุดสีแดง .. ชุดสีแดงน่ะมันของเดวิลเกเรต่างหาก

ว่าที่กามเทพฝึกหัดของขึ้นทันทีที่ได้ยินคำเรียก เดวิลงั้นเรอะ! ครั้งนี้เขามาในฐานะผู้ให้พรจะเป็นเดวิลได้ยังไงกัน!! เด็กบ้า!!! เฮนับหนึ่งถึงร้อยในใจเพื่อระงับอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดก่อนที่จะใช้เวทมนต์ในทางที่ผิดไปซะก่อน ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เฮร้องเรียกเด็กน้อยอย่างตกใจ “นี่!”

“คะ?” โจว ซองอึนรับคำอย่างเป็นคำถาม ดวงตากลมโตมองหน้าคุณลุงในชุดแดงอย่างไม่เข้าใจ ลุงเดวิลเรียกเธอ”นี่”ทำไมกัน แล้วทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วย

“ว่าแต่ .. เธอเห็นฉันได้ยังไง” ชายหนุ่มในชุดแดงตั้งคำถาม มนุษย์ไม่ควรเห็นร่างของเหล่าเทพ ไม่ว่าจะเป็นเทวดา นางฟ้า หรือแม้แต่เดวิลอย่างเขาไม่ใช่หรือ แต่เจ้าเด็กน้อยนี่กลับมองเห็น แถมยังโต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัวเสียด้วย ราวกับคุ้นชินกับพวกเขาอย่างนั้นแหละ

“ซองอึนไม่ควรจะเห็นเดวิลเหรอคะ” เด็กน้อยตั้งคำถาม แก้มเล็กพองลมออกพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบ “อืมมม .. ซองอึนเจออามิน อามินใจดีช่วยสอนการบ้านซองอึนบ่อยๆ แล้วก็เจอนางฟ้าผู้พิทักษ์ฮโยยอนกับท่านฮยอกแจบ่อยๆ นางฟ้าองค์อื่นก็รู้จักบ้างเหมือนกัน แต่ซองอึนไม่ค่อยเห็นเดวิลหรอกค่ะ …. หรือซองอึนไม่ควรเห็นเดวิลนะ”

เดวิลอยากย้ายงานตนนี้อึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ตอบกลับมาเป็นคำถามของเด็กหญิงตัวจ้อย เธอรู้จักนางฟ้าผู้พิทักษ์ของทั้งตัวเอง ของบิดา และเทพองค์อื่นๆอีกด้วย คงไม่ใช่ความบังเอิญที่เด็กหญิงตรงหน้าสามารถเห็นเหล่าเทพทั้งหลายรอบตัวเธอ เขามองเธออย่างพิจารณาอีกครั้ง

…เธอคงเป็นพวกจิตบริสุทธิ์สินะ

“ช่างมันเถอะ .. ฉันแค่อยากมาดูบ้านของโจว คยูฮยอนซะหน่อย จะได้รู้ว่าจะจับคู่เขากับใครดี” เฮพูดขึ้นก่อนจะบอกลาเด็กน้อย “ไปล่ะ ฉันไปทำงานต่อดีกว่า”

ร่างหนาพาตัวเองเดินออกไปแต่กลับมีอะไรรั้งเขาเอาไว้ไม่ได้สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ เฮก้มลงมอง เขาเห็นมืออูมเล็กจับชายเสื้อหนาวตัวหนาสีแดงของเขาแน่น “เฮ้! เธอมาจับเสื้อฉันทำไมแม่หนูน้อย”

“ให้ซองอึนไปด้วยได้ไหมคะ ซองอึนอยากเลือกอมม่าด้วย” เด็กหญิงถาม เธอเอียงคอเล็กๆมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างน่ารัก

“ไม่ได้!” เฮตอบอย่างหนักแน่น เขามองนิ่งลึกเข้าไปในดวงตาใสของเด็กน้อยราวกับจะอ่านความคิด น้ำใสๆที่เริ่มก่อตัวในดวงตาคู่นั้นทำให้เขาเริ่มจะลังเลใจจนยอมเธอในที่สุด “อะ ก็ได้ .. แต่เธอห้ามวุ่นวายกับงานของฉันนะ”

“คนนั้น”
“ไม่เอาค่ะ ไม่เห็นสวยเลย”

“คนนั้นล่ะ”
“หวา ดูใจร้ายออกนะคะคุณลุง”

“สาวเสื้อแดงคนนั้นดูน่าสนใจดีนะ”
“อี๋ โป๊”

เสียงผู้ทำหน้าที่คิวปิดในชุดแดงถามความเห็นจากเด็กน้อยผู้ที่น่าจะให้ความร่วมมือในการหาคู่ในโจว คยูฮยอน แต่กลับกลายเป็นว่าแม่หนูน้อยปฏิเสธหญิงสาวทุกคนที่เขาชี้ให้เธอดูโดยแทบจะไม่คิด เด็กน้อยหาเหตุมาแย้งเขาคนแล้วคนเล่าจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าจนเขาเองชักจะเริ่มเหนื่อยกับการตามล่าหาคู่แท้เสียแล้ว

“นี่ซองอึน เธอจะชอบคนไหนที่ฉันเลือกไหม” เฮถามอย่างขัดใจ

“ก็คุณลุงเลือกแต่อะไรก็ไม่รู้นี่คะ แบบนี้เลือกยังไงอัปป้าก็ไม่ชอบหรอก” เด็กหญิงตอบพร้อมกับทำหน้ามู่ มือเล็กๆเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมมาตามใบหน้ากลมพร้อมด้วยเครื่องหน้าน่ารักจนทำให้ผมยุ่งไปหมด แต่เธอยังคงน่ารักราวกับตุ๊กตาตัวน้อย

…ตุ๊กตาผีน่ะสิ เด็กอะไรวุ่นวายชะมัด!

“ก็แล้วเธออยากได้แบบไหนกันเล่า” ร่างสูงถามขึ้น อย่างน้อยเด็กหญิงก็รู้จักภารกิจของเขาดีที่สุด เขาควรจะหาข้อมูลจากเธอ

“ผิวขาว ตาโต ผมยาว สวย ใจดี มีรอยยิ้มที่จริงใจและอบอุ่น” ซองอึนร่ายยาวก่อนจะหันหน้ามาถามคุณลุงเดวิลของเธอ “จะหาได้ไหมคะคุณลุง”

เฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหยิบสมุดเล่มหนาออกมาก่อนจะสัมผัสปลายนิ้วลงไปราวกับพิมพ์ดีดก่อนจะยื่นสมุดเล่มโตนั้นมาให้เด็กหญิงก่อนจะถาม “มีชอบซักคนไหมซองอึน”

มือเล็กเปิดหนังสือที่เต็มไปด้วยภาพและประวัติของหญิงสาวหน้าแล้วหน้าเล่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบคุณลุง “อืมมมมม .. มันพูดยากนะคะ”

“แล้วอย่างนี้เราจะหาแม่ให้เธอได้ทันวาเลนไทน์ไหมล่ะซองอึน” เขาเห็นอาการเลือกเยอะของเด็กตรงหน้าแล้วถึงกับท้อ นี่ขนาดเปิดบัญชีสาวโสดให้เลือกอย่างกับแคทตาล็อกแล้วเธอก็ยังไม่พอใจ ภารกิจของเขาครั้งนี้ท่าจะเจองานหิน แค่คิดเฮก็ยกมือขึ้นมากุมขมับอย่างท้อใจ

…จะได้เป็นไหม คิวปิดฝึกหัดเนี่ย

“อัปป้า” ชายหนุ่มหันหน้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กหญิงร้องเรียก คยูฮยอนนั่งรอลูกสาวที่ออกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านแต่กลับบ้านช้าผิดเวลาจนเขาเริ่มเป็นห่วงจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ เขากำลังคิดจะไปตามหาลูกที่สนามเด็กเล่นใกล้บ้านหากแต่แม่หนูกลับมาถึงบ้านเสียก่อน

“ซองอึน ไปไหนมาคะลูก” ชายหนุ่มถาม น้ำเสียงบ่งชัดถึงความห่วงใย

“ไปหาอมม่ากับคุณลุง… อุ๊บ!” เด็กหญิงตอบตามความจริงอย่างลืมตัวก่อนจะนึกได้ เธอเปลี่ยนคำตอบให้ปลอดภัยสำหรับลุงเฮและภารกิจหาแม่ “ไปหาอมม่าของจีฮโยมาค่ะอัปป้า”

ชายหนุ่มย่อตัวลงตรงหน้าลูกสาว ดวงตาคมปราบมองแม่ตัวน้อยอย่างพินิจแต่ถึงอย่างนั้นสายตาของเขากลับฉายแววอ่อนโยนและอบอุ่น มือหนาเอื้อมจับไหล่เล็กทั้งสองข้าง “ซองอึน ลูกรู้ใช่ไหมคะว่าความหมายของชื่อลูกแปลว่าอะไร” เขาถาม

“อัปป้าบอกว่าแปลว่าพรจากสวรรค์ค่ะ” เด็กน้อยตอบเจื้อยแจ้ว

“ลูกเป็นพรจากสวรรค์ของทั้งอัปป้าและอมม่า อมม่าที่อยู่บนสวรรค์ต้องคอยมองพวกเราอยู่แน่นอน เพราะฉะนั้นอย่าน้อยใจที่ซองอึนไม่ได้เจอคุณแม่ทุกวันเหมือนคนอื่นนะคะ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอบอุ่นราวกับกำลังร้องเพลงกล่อมเด็ก เขารู้ว่าซองอึนก็เหมือนเด็กทั่วไปที่ต้องการความรักและการดูแลจากทั้งพ่อและแม่ หากแต่แม่ของเธอจากไปแล้ว ลูกถึงโหยหาความรักจากแม่ขนาดนี้ การที่ได้ยินว่าเธอไปหาแม่ของเพื่อนสนิทยิ่งทำให้เขาคิด หรือเขาควรจะหาแม่ให้ลูก ในเมื่อหัวใจของเขามีไว้เพื่อเธอ ภรรยาของเขา แล้วเขาควรจะทำอย่างไร

…อดทนหน่อยนะลูกรัก อัปป้าเชื่อว่าอมม่าต้องกลับมาหาพวกเรา

“ค่ะอัปป้า” เด็กหญิงตอบรับก่อนจะโผเข้ากอดบิดาที่ไม่ทันตั้งตัวจนเสียหลักก้นจ้ำเบ้าไปนั่งกับพื้น สองพ่อลูกหัวเราะขันก่อนจะพากันลุกขึ้น

“ถึงมีอัปป้าอยู่ ซองอึนก็ยังอยากมีอมม่าอยู่งั้นเหรอเนี่ย .. น่าน้อยใจชะมัด” คยูฮยอนบ่นอย่างน้อยใจ เขาอุ้มลูกสาวคนเดียวมานั่งบนตักที่โซฟาตัวหนา

“อัปป้า~ ซองอึนรักอัปป้านะคะ” เด็กน้อยกอดบิดาอีกครั้ง ครั้งนี้แถมด้วยหอมที่แก้สากหนึ่งฟอดใหญ่เพื่อง้อไม่ให้เขาน้อยใจก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อหยิบการบ้านในกระเป๋าออกมาทำ

ชายหนุ่มมองภาพเด็กหญิงที่เหมือนเธออย่างกับถอดพิมพ์เดียวกัน ทั้งดวงตา แก้มนุ่มนิ่มสีชมพู และริมฝีปากเล็ก ทุกครั้งที่เขามองซองอึนทำให้เขาคิดถึงเธอ หญิงอันเป็นที่รัก คยูฮยอนมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาจ้องไปที่ปลายฟ้าพร้อมกับเอ่ยเบาๆ “ลูกสาวเราโตขนาดนี้แล้ว เธอเห็นใช่ไหม”

เดวิลหนุ่มอายุ 210 ปีเดินตามเด็กหญิงตัวจ้อยไปเรื่อยๆ แทนที่จะไปติดตามเจ้าตัวภารกิจ เขากลับรู้สึกว่าเด็กหญิงเป็นกุญแจสำคัญในการตามหาคู่แท้ของคยูฮยอนมาผูกด้ายแดงมากกว่า ดวงตาสีเทาวาบวับของเดวิลมองตามเด็กน้อยไป เธอทักทายคนอื่นไปทั่ว เห็นก็รู้ว่าเด็กน้อยเป็นที่รักของคนรอบข้าง … อาจจะเป็นเพราะออร่าบางอย่างที่ออกมาจากตัวเธอ เขาสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์และจริงใจของเด็กน้อย

ร่างสูงลดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กที่เด็กน้อยนำมาวางไว้ข้างๆโต๊ะเรียนของเธอโดยบอกกับเพื่อนๆว่าเธออยากจะใช้มันวางกระเป๋าเป้ใบโตที่ทำให้เธออึดอัดกับการนั่ง เด็กหญิงคุยหยอกล้อกับเพื่อนๆก่อนที่จะเดินแยกตัวมานั่งที่โต๊ะเมื่อได้ยินเสียงระฆัง เพียงไม่นานหลังจากนั้นหญิงสาวร่างเล็กก็เดินเข้าห้องมาด้วยท่าทางเป็นกันเอง หญิงสาวดูทั้งอ่อนเยาว์และสดใส ถึงอย่างนั้นเขารู้สึกได้ถึงความเข้มแข็งในแววตาคู่นั้น

…น่าสนใจทีเดียว เป็นตัวเลือกทีดีสำหรับโจว คยูฮยอนไม่ใช่รึ

“เด็กๆคะ คุณครูซันนี่ลาคลอดไปเลี้ยงน้อง เด็กๆรู้ใช่ไหมคะลูก” คุณครูใหญ่แทยอนเอ่ยถามเด็กๆอย่างสดใสและมีพลัง

“ทราบครับ/ทราบค่ะ” เด็กๆต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกัน

“เป็นคุณครูคนนี้ดีไหมซองอึน” เฮกระซิบถามเด็กน้อยข้างกาย

“ไม่ค่ะ!” ซองอึนตอบเดวิลข้างๆเสียงดังอย่างลืมตัวว่ามีเธอเพียงคนเดียวที่เห็นเขา

สิ้นเสียงตอบของเด็กน้อย เพื่อนร่วมห้องต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียว คุณครูหน้าเด็กได้ยินถึงกับตั้งคำถามด้วยความสงสัย เนื่องจากซองอึนไม่เคยเกเรในห้องมาก่อน แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น “ว่าไงนะจ้ะซองอึน”

“ปะเปล่าค่ะ” เด็กหญิงปฏิเสธ มือน้อยๆโบกให้วุ่น “ซองอึนหมายถึง ทราบค่ะคุณครู” เธอตอบก่อนจะหันไปค้อนขวับให้กับเจ้าว่าที่คิวปิดฝึกหัดตัวแสบที่กำลังแลบลิ้นให้กับเธอ อยากจะแลบลิ้นกลับลุงเฮเป็นที่สุดแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าทำไปจริงคุณครูแทยอนคงจับเธอไปอบรมเป็นแน่ เด็กน้อยทำจมูกย่นอย่างขัดใจ

“วันนี้เรามีคุณครูคนใหม่มาดูแลเด็กๆแทนคุณครูซันนี่นะจ้ะ” คุณครูแทยอนยังคงกล่าวต่อไปด้วยเสียงสดใสก่อนจะหันไปเรียกผู้มาใหม่ที่อยู่ด้านนอกห้อง “เชิญค่ะคุณครูซอ”

ร่างบางระหงเดินเข้ามาตามคำบอกของผู้เป็นหัวหน้า ผิวเนียนละเอียดของเธอขาวจนเกือบจะเรืองแสงได้ ผมสีน้ำตาลยาวเป็นลอนสลวยราวกับกลุ่มไหมทิ้งตัวลงมาเกือบถึงเอว ดวงหน้าสวยหวานซึ้งรับกับนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน “สวัสดีจ้ะเด็กๆ ครูชื่อซอ จูฮยอน .. เด็กๆเรียกครูว่าคุณครูจูฮยอนก็ได้จ้ะ”

เฮขมวดคิ้วก่อนจะคลายออกเมื่อเห็นร่างระหงที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย เขาสัมผัสได้ถึงความพิเศษในตัวเธอ ความอบอุ่น รวมไปถึงไอของจิตบริสุทธิ์แบบเดียวกับที่แผ่มาจากโจว ซองอึน และยิ่งเสียงหวานๆราวกับร้องเพลงอยู่ข้างหูนั่นอีก เขามั่นใจว่าต้องใช่เธอแน่ๆ

“ดูแลคุณครูดีๆนะจ้ะเด็กๆ” แทยอนกล่าวเสียงสดใสก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้คุณครูคนใหม่อยู่กับเด็กๆตามลำพังด้วยรู้ว่าคุณครูซอสามารถจัดการดูแลเด็กๆได้เป็นอย่างดี

“คุณลุงเฮคะ คุณลุง” เด็กหญิงกระซิบกระซาบกับสิ่งไร้ร่างที่อยู่ข้างตัวพร้อมรอยยิ้มยินดี “หนูเจอแล้วคู่แท้ของอัปป้า”

“นางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนงั้นเหรอ” เฮพูดกับตัวเองเบาๆในใจก่อนจะหันไปถามเด็กน้อย “จะใช่เหรอซองอึน”

เขาเองพอจะรู้จักนางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนอยู่บ้าง ใครเล่าจะไม่รู้จักนางฟ้าที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ เธอสวย สง่า และน่ารักจนเป็นที่หมายปองของเหล่าเทพและเดวิลหนุ่มทั้งหลาย พวกเขาต่างก็แข่งกันเพื่อจะแย่งชิงหัวใจของเธอมาครอง เฮไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากเขาเป็นเพียงเดวิลด้อยบรรดาศักดิ์จึงไม่อาจหาญไปจีบนางฟ้าในหมู่นางฟ้าอย่างเธอเช่นเดียวกับองค์อื่น แต่ถึงอย่างนั้นเขายังจำทั้งดวงหน้า แววตา และน้ำเสียง หรือแม้แต่กลิ่นหอมอ่อนๆจากเธอได้เป็นอย่างดี .. ช่วงครึ่งปีหลังตามเวลาสวรรค์เฮไม่ได้พบเธอบ่อยมากนักอย่างที่ผ่านมา แต่เขาไม่นึกเอะใจใดๆ อาจเพราะมัวยุ่งอยู่กับการทำเรื่องขอย้ายมาเป็นคิวปิดฝึกหัดภายใต้การดูแลของนางฟ้าเจสสิก้าก็เป็นได้

…แล้วอยู่ๆก็มากลายเป็นมนุษย์เนี่ยนะ มันจะใช่เหรอท่านซูเซี่ยน!

“ใช่สิคะ ซองอึนเห็นบ่อยๆในฝัน” เด็กน้อยตอบราวกับล่วงรู้คำถามในใจของเขายังไงอย่างงั้น

ไม่มีเสียงตอบจากเฮ ว่าที่คิวปิดฝึกหัดชุดแดงกำลังประมวลผลจนเริ่มจะปวดหัว หรือสมองน้อยๆที่ผ่านการใช้งานมากว่าสองร้อยปีเริ่มจะสึกหรอเสียแล้ว ทุกอย่างถึงดูสับสนไปหมดตอนนี้ .. หรือเขาพลาดอะไรบางอย่างไป

“คุณลุงเฮ จะทำยังไงให้อัปป้าพบกับอมม่าล่ะคะ” เด็กน้อยถาม “อัปป้าให้ป้าอาร่ามารับซองอึนตลอดเลย แล้วจะเจอกับคุณครูได้ยังไง”

“คุณลุงเฮ” ซองอึนเรียกเฮอีกครั้งให้เขาตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด

“เดี๋ยวฉันมานะยัยเด็กน้อย” ชายในชุดแดงตอบก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วหายตัวไปจากห้องเรียน ปล่อยเด็กหญิงซองอึนไว้เบื้องหลังกับห้องเรียนที่ดูจะน่าเบื่อเกินไปสำหรับเธอ มีเพียงอย่างเดียวที่น่าสนใจคือคุณครู สมองเล็กๆประมวลผลไปร้อยแปดวิธีที่จะทำให้อัปป้ามาเจอกับคุณครูแสนสวย

เด็กน้อยถอนใจเฮือกใหญ่ วันนี้กามเทพเฉพาะกิจดูจะเงียบผิดปรกติตั้งแต่เห็นหน้าคนที่เธอหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เป็นคุณแม่ หรือว่าคนที่เธอเลือกมันจะยากเกินไปสำหรับลุงเฮและอัปป้าก็ไม่รู้

…เฮ้อ ก็ซองอึนอยากให้คุณครูซอฮยอนเป็นอมม่านี่นา

…เป้าหมายมีไว้พุ่งชนไม่ใช่เหรอ

…แล้วลุงเฮหนีไปไหนในเวลาอย่างนี้ล่ะเนี้ย! ไม่มาอยู่พุ่งชนด้วยกัน หรือลุงเฮจะกลัวเจ็บ

…กระซิบอามินดีไหมเนี่ยว่าให้ไปฟ้องเทพผู้ดูแลลุงเฮว่าลุงเฮหนีไปแล้ว

ท่ามกลางอากาศที่ยังคงหนาวของกรุงโซลในเดือนกุมภาพันธ์ แดดรำไรยังคงสาดส่องแม้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้วก็ตาม เด็กน้อยต่างก็วิ่งเล่นอย่างร่าเริงภายในสนามเด็กเล่นเล็กของโรงเรียนอนุบาลเพื่อรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน บ้างก็วิ่งไล่กัน บ้านก็เล่นเครื่องเล่นผลัดกันปีนป่าย ร่างน้อยๆของโจว ซองอึนอยู่บนชิงช้าที่แกว่งไกวอย่างช้าๆภายใต้สายตาอบอุ่นที่ทอดมองมายังเด็กน้อยโดยที่เธอไม่รู้ตัว คุณครูสาวรู้สึกถูกชะตากับเด็กหญิงเป็นที่สุดทั้งๆที่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกัน ความผูกพันก่อกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวมองเด็กน้อยที่ผุดตัวลุกขึ้นจากที่นั่งวิ่งไปหาใครซักคนที่หน้าประตูโรงเรียน ขาเรียวบางก้าวตามร่างจิ๋วไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เด็กหญิงวิ่งไปกอดหญิงสาวร่างเล็กผิวขาวนวลราวกับหยวกกล้วย ดวงหน้ารูปไข่รับกับผมม้าที่ทำให้เธอดูเด็กเกินกว่าจะเป็นแม่ของเด็กวัยห้าปีอย่างซองอึน

“คุณป้าอาร่า!” ไม่ต้องพูดถึงการเป็นป้าด้วยซ้ำ! ซอ จูฮยอนมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ไม่ต่างกันกับสายตาครุ่นคิดที่อีกฝ่ายส่งมาให้

“วันนี้มีคุณครูคนใหม่มาแทนคุณครูซันนี่ด้วยค่ะ” เด็กหญิงเล่าให้คุณป้ายังสาวฟังเจื้อยแจ้ว ดวงตาบ่งชัดถึงอาการตื่นเต้น “คุณครูจูฮยอนค่ะ”

จูฮยอนโค้งศรีษะเก้าสิบองศาอย่างนอบน้อมให้กับหญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นมิตรไปให้จากใจจริง “สวัสดีค่ะ”

หญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าตอบรับ หากไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นเสียงทุ้งดังขึ้นจากเบื้องหลังส่งผลให้คุณครูสาวยิ้มด้วยประกายเจิดจ้า “ซอฮยอน”

หญิงสาวกล่าวลาทั้งผู้ปกครองและลูกศิษย์ตัวน้อยเบาๆก่อนจะขอตัวไปหาผู้มาใหม่ เธอวิ่งไปหยิบกระเป๋าสะพายส่วนตัวที่วางไว้ไม่ไกลนักก่อนจะเดินกลับมาหาร่างสูงสมบูรณ์แบบนั้น เด็กหญิงลอบมองภาพตรงหน้าอย่างครุ่นคิด … หรือคุณครูอาจจะมีแฟนแล้วก็เป็นได้ .. ดวงตากลมโตที่มักฉายแววร่าเริงอยู่เสมอหม่นลงเล็กเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่เธอไม่อยากให้กลายเป็นความจริง

ถัดไปไม่ไกลนัก วิญญาณรูปหล่อยังคงสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล สีหน้าครุ่นคิดแต่ไม่ได้ฉายแววตึงเครียดหรือซึมเศร้าเฉกเช่นเด็กน้อย ก่อนที่ร่างนั้นจะหายตัวไปในพริบตา

“คุณลุงเฮ เราจะทำยังไงกันดีคะ” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างชายหนุ่มปรากฎกายขึ้นในห้องนอนของเธอหลังจากที่หายไปตั้งแต่เมื่อกลางวัน อามินเทวดาผู้พิทักษ์ประจำตัวเธอก็บอกว่าลุงเฮไม่ได้อยู่ใกล้ๆ คงไปที่ไหนซักแห่งของสวรรค์ … จริงๆเธอควรจะให้อามินหรือไม่ก็ลุงเฮพาไปหาอมม่าที่สวรรเสียจะได้สิ้นเรื่อง เสียแต่คิดช้าไปหน่อย นี่อมม่ามาเป็นคุณครูที่โรงเรียนแบบนี้คงไม่ต้องหนีอัปป้าไปสวรรค์แล้ว ที่จำเป็นตอนนี้คือความสามารถที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ของลุงเฮต่างหาก

“อะไรยังไงล่ะ” เดวิลที่รับหน้าที่เป็นผู้ให้พรถามกลับเมื่อได้ยินคำถามที่ได้ที่มาที่ไป

“ก็อมม่ามีแฟนแล้วได้ยังไงล่ะ คุณลุงต้องจัดการนะคะ” เด็กหญิงร้องโวย

“ฉันจะจัดการได้ยังไงล่ะ” จะจัดการยังไงที่ไม่ใช่ร่ายมนต์ผูกใจใส่คยูฮยอนกับคุณครูสุดสวย และก็ต้องไม่ใช่ร่่ายมนต์สิ้นสิเน่หาใส่พ่อหนุ่มหน้ามนที่เทียวไล้เทียวขื่อคุณครูซอ .. ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบแม้ในใจยังคงครุ่นคิด จะแก้ปมนี้ได้อย่างไรดีในเมื่อการเป็นกามเทพดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เสียแล้ว

“ก็คุณลุงเฮเป็นคิวปิดนี่คะ ทำไมทำไม่ได้ล่ะ ก็แผลงศรใส่สิคะ” ซองอึนกล่าวอย่างขัดใจเมื่อเห็นท่าทางเรียบเฉยของเขา “เป็นคิวปิดปลอมล่ะสิ เห็นไหมหนูว่าแล้วเชียว”

“ฉันเป็นคิวปิดฝึกหัดเฉยๆ ไม่ได้เป็นคิวปิดปลอมซักหน่อย” “นี่ซองอึน ความรักน่ะนะ มันบังคับกันไม่ได้ซักหน่อย ฉันแค่สามารถช่วยให้พวกเค้าได้พบกันในเวลาที่เหมาะสม ช่วยทำให้เขาเพาะบ่มความรักได้งอกงามขึ้นเท่านั้นแหละ แต่ฉันน่ะทำให้คนเลิกกันไม่ได้หรอกนะ มันไม่ใช่วิถีของคิวปิด”

“เวทมนต์ทำให้คนรักหรือหมดรักกันไม่ได้หรอกนะเด็กน้อย” เขาอธิบายหลักการข้อแรกของคิวปิด แรกเริ่มที่นางฟ้าเจสสิก้าอธิบาย เขาเองไม่เข้าใจนัก หากแต่เมื่อมีเวลาใคร่ครวญก็เข้าใจได้ว่าหากรักนั้นมาจากเวทมนต์ เมื่อถึงเวลาเวทมนต์คลาย ความรักก็เสื่อมถอย ในทางตรงข้าม หากรักนั้นมาจากหัวใจเพาะบ่มไว้ด้วยความเข้าใจและศรัทธาอันหนักแน่น รักนั้นจะอยู่ยืนยง

“ว้า” เด็กหญิงทอดถอนใจเมื่อดูแล้วความหวังของเธอจะเลือนรางลงทุกที มือน้อยคว้าหมอนมากอดไว้ที่อกพร้อมทำหน้าย่น เธอซุกใบหน้าเล็กๆนั่นลงกับหมอนใบโตอย่างท้อใจ

…การจะมีแม่ซักคนเหมือนคนอื่นเค้ามันยากอย่างนี้เลยหรือ

…คนอื่นจะต้องพยายามอย่างนี้บ้างไหมนะ

“อย่าเพิ่งหมดหวังสิ ก็บอกแล้วไงว่าเราช่วยพวกเค้าให้รักกันได้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่น ท่าทางของเด็กน้อยทำให้เขามุ่งมั่นขั้นสุดว่าภารกิจนี้ต้องไม่มีทางพลาด ยังไงเขาต้องทำให้ซอ จูฮยอนมาเป็นอมม่าของเด็กน้อยให้ได้ มือหนาลูบที่ศรีษะเล็กอย่างเบามือพร้อมกับเอ่ยประโยคสั้นๆแต่กลับสร้างความมั่นใจให้กับเธอ “เชื่อมือลุงเฮสิ”

ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เฮยังคงเฝ้ารอจังหวะเหมาะๆที่จะร่ายมนต์วิเศษเพื่อช่วยให้เด็กน้อยสมหวัง เขายังไม่ได้ใช้ร่ายมนต์ซักบทตั้งแต่ลงมาโลกมนุษย์เพื่อทำภารกิจหากไม่ได้นับมนต์เดินเหินหรือหายตัว เด็กหญิงซองอึนยังคงเฝ้ารออย่างมีความหวัง เธอเชื่อสุดหัวใจในความสามารถของเฮและเชื่อลึกๆว่าคุณครูซอ จูฮยอนคือคนที่ฟ้าสร้างมาเพื่อคู่กับบิดาของเธอ เธอรู้สึกอย่างนั้น

ร่างสูงใหญ่ในชุดแดงนั่งนิ่งอยู่บนคานเสาข้างเคียงสัญญานไฟจราจรกลางสี่แยกที่พลุกพล่าน แต่หามีใครเห็นไม่ ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่ตามปกติ สายตามนุษย์ไม่สามารถมองเห็นคนอย่างเขา .. เฮ

วันนี้เฮตัดสินใจมาตามดูชายหนุ่มคนสนิทของซอ จูฮยอนหญิงสาวที่เขาหมายมั่นปั้นมือไว้ว่าจะให้เป็นเนื้อคู่ของภารกิจนี้แทนที่จะไปนั่งดูการเรียนการสอนเหมือนทุกวัน วาเลนไทน์ใกล้มาทุกที เขาคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ดวงตาคมมองรถสปอร์ตหรูสีแดงที่เคลื่อนตัวมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะดีดนิ้วเปาะ

ปัง!

ยางล้อรถคันสวยแตกเสียงดังลั่นจนรถหมุนคว้าง เฮมองรถรอบๆคอยระวังไม่ให้ได้ผลจากมนต์ของเขานอกเหนือไปจากชายหนุ่มรูปงามที่กำลังรีบไปยังที่นัดหมายเพื่อคุยธุรกิจกับคู่ค้า เสียงหวีดร้องดังไปทั่วบริเวณเมื่อกลายเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์หวาดเสียว สายตากว่าสิบคู่จ้องมาที่รถสวย บ้างก็เข้ามาใกล้เพื่อดูว่าผู้อยู่ในรถต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ประตูรถค่อยๆเปิดอย่างช้าๆก่อนที่ร่างของชายหนุ่มจะออกมาจากรถที่บัดนี้กลายเป็นพาหนะสามล้อไปเสียแล้ว เขากล่าวขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยเหลือก่อนจะรีบคว้าเอาโทรศัพท์ออกมาทันทีแทบจะไม่มีโอกาสได้หายใจ

โจว อาร่าผุดลุกผุดนั่งอยู่ที่สำนักงานของบริษัทก่อสร้างชื่อดัง อันที่จริงเธอมอบหมายให้เลขาส่วนตัวเป็นผู้มาติดต่อเรื่องแบบแปลนก่อสร้างโรงเรียนสาขาใหม่แต่กลับกลายเป็นว่าเลขาของเธอป่วยกระทันหันจนไม่สามารถมาทำงานได้ เธอจึงต้องรับหน้าที่นี้แทน แต่นี่ก็เลยเวลาไปมากแล้วสถาปนิกที่เธอนัดไว้ยังมาไม่ถึงเสียที ร่างเล็กผุดลุกผุดนั่งเมื่อไม่มีแม้เงาของผู้ที่เธอนัดไว้และเธอเองก็กำลังจะไปรับหลานไม่ทัน!

“คุณโจวคะ” เสียงหญิงสาวประชาสัมพันธ์ของสำนักงานหยุดร่างเล็กนั้นไว้ก่อนที่เธอจะเดินออกไป “คุณซงเกิดอุบัติเหตุ อาจจะมาถึงช้าไปซักหน่อยแต่เขากำลังเดินทางมา ใกล้จะถึงแล้วค่ะ”

อาร่ายกนาฬิกาขี้นดูก่อนจะขมวดคิ้วอย่างชั่งใจ หากเธอบอกคยูฮยอนให้ไปรับซองอึนเองวันนี้จะเป็นไรไหมนะ เธอไม่อยากเสียเวลากว่าชั่วโมงที่นั่งอยู่ที่นี่ไปฟรีๆ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือคู่ใจออกกมาพร้อมกับกดเบอร์โทรด่วนไปหาน้องชายทันที

“ขอโทษครับ ผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” ร่างสูงเดินเข้ามาให้ส่วนรับรองของสำนักงานก่อนจะโค้งแสดงความขอโทษที่ทำให้ลูกค้าอย่างเธอรอนาน เขามองคนที่ลุกยืนโค้งกลับเขาอย่างสุภาพก่อนจะนึกไว้ว่าไม่ใช่หน้าคุ้นๆของคนที่เคยเจรจาตกลงงานด้วยกันบ่อยๆ

“เลขาปาร์คป่วยน่ะค่ะฉันเลยต้องมาคุยเอง” เธอตอบตามความจริง

“เหมือนเราจะเคยพบกันมาก่อน” ซง ซึงฮุนสถาปนิกชื่อดังเจ้าของสำนักงานนี้เอ่ย “แต่ไม่น่าจะใช่เพราะงานนี้ เพราะผมติดต่อเลขาปาร์คมาตลอดหากเป็นงานจาก AC Music Academy”

“คงเป็นที่โรงเรียนอนุบาลละมังคะ” เธอตอบเสียงเรียบ .. จะลืมได้อย่างไรในเมื่อเพิ่งพบกับไปเมื่อวานแถมเขายังน่าจดจำเสียขนาดนี้

ซึงฮุนพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เขาผายมือให้เธอแล้วเดินนำเธอไปในห้องทำงานส่วนตัวเพื่อคุยโครงการสร้าง AC Music Academy สาขาใหม่

คยูฮยอนละมือจากงานทั้งหมดเพื่อเดินทางมายังโรงเรียนอนุบาล โชคดีแท้ๆที่เขาไม่เหลืองานเร่งด่วนอย่างเช่นทุกวัน เขาเลยสามารถไปรับลูกสาวได้ประจวบเหมาะกับที่อาร่าไม่ว่างพอดี รถฮุนไดสีขาวจอดสนิทนิ่งอยู่ที่หน้าโรงเรียน ชายหนุ่มเดินเข้าไปยังสถานที่ที่นานๆทีเขาจะได้มาเยือน ไม่ใช่เขาไม่รับผิดชอบหรือไม่อยากดูแลลูกหรืออย่างไร แต่ด้วยงานทนายความที่มักจะมีลูกความขอความช่วยเหลือเสมอและส่วนใหญ่ก็จะเป็นกรณีเร่งด่วนทำให้เขาต้องเลิกงานดึกอยู่เป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นคยูฮยอนก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะกำหนดตัวเองให้เลิกดึกสุดแค่หนึ่งทุ่มเพื่อที่จะกลับไปดูแลลูกน้อยต่อจากอาร่าพี่สาว อาร่าเองก็ยินดีเหลือเกินที่ได้ดูแลเด็กน้อยเพราะเธอเองก็ยังไม่มีครอบครัว การที่อาร่ามารับซองอึนไปดูแลในช่วงเย็นจึงกลายเป็นสิ่งที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย

คยูฮยอนเดินมายังห้องเรียนของลูกสาวเมื่อพบว่าเธอไม่อยู่ที่สนามเด็กเล่นอย่างที่เคย ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยของเล่นเด็กเล็กสีสันสดใส ดวงตาคมมองเห็นเบื้องหลังร่างระหงที่ย่อตัวเล่นอยู่กับเด็กหญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แม้เธอจะหันหลังให้เขาแต่เขากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่หญิงสาวหันกลับมาตามซองอึนที่วิ่งไปหาบิดาอย่างดีใจ วินาทีที่เขาเห็นหน้าเธอเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน ดวงตาคมสบนิ่งอยู่กับเธอ มีเพียงคำพูดออกมาจากปากเขาที่เบาจนเหมือนกระซิบ

“ซูเซี่ยน”

“สวัสดีค่ะ ฉันซอ จูฮยอนคุณครูประจำชั้นคนใหม่ของซองอึนค่ะ” ครูสาวแนะนำตัวเองอย่างเป็นมิตร เธอจ้องมองลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นของเขาที่เหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ จูฮยอนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นอย่างประหลาด หากแต่บอกไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร .. ทั้งๆที่เธอเข้ากับคนยากแท้ๆ

ในอาคารแบบโรมันขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายวัย เกือบจะทั้งหมดอยู่ในเครื่องแต่งกายสีขาวที่คล้ายๆกับจะเรืองแสงเมื่อสะท้อนกับแสงสีขาวที่ตกกระทบลงบนอาคารหินอ่อนดูแสบตา วิญญานรูปหล่อในชุดแดงที่ปรากฏตัวขึ้นในหอสมุดกลางของสวรรค์จึงเป็นจุดสนใจ(เล็กๆ)ซึ่งเจ้าตัวพยายามคิดว่าเป็นเพราะความหล่อของเขามากกว่าชุดแดงแรงฤทธิ์นั่น เฮเดินดุ่มไปยังชั้นหนังสือหมวดชีวประวัติ เขาหยิบหนังสือวิเศษขึ้นมาหนึ่งเล่มแล้วตั้งคำถาม

“หนังสือวิเศษ ข้าอยากรู้ชีวประวัติของนางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยน”

“นางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนเป็นหนึ่งในนางฟ้าผู้พิทักษ์ตระกูลโจว นางเป็นนางฟ้าที่อบอุ่นและรักเสียงเพลง ความสามารถพิเศษคือการใช้เสียงเพลงขับกล่อมให้ทั้งมนุษย์และเทวดาทำตามประสงค์ราวกับร่ายมนต์

30 ปีที่แล้วตามเวลาโลกมนุษย์โจว คยูฮยอนได้กำเนิดบนผืนโลก นางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซียนจึงได้รับมอบหมายให้เป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์เขา

จนเมื่อ 6 ปีที่แล้วตามเวลามนุษย์นางฟ้าผู้พิทักษ์บาดเจ็บสาหัสจากการช่วยเหลือโจว คยูฮยอนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เวทมนต์นางฟ้าเสื่อมนางจึงต้องอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลโจวอย่างมนุษย์ปุถุชนและได้รับการดูแลจากโจว คยูฮยอนจนในที่สุดความรักต้องห้ามก็เกิดขึ้น นางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนตั้งครรภ์กับโจว คยูฮยอน นางขอให้ให้กำเนิดเด็กน้อยอันเป็นตัวแทนแห่งความรักของทั้งคู่ก่อนที่จะรับบทลงโทษตามสมควร ด้วยจิตบริสุทธิ์ความรักที่ยิ่งใหญ่ของนางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซียนและโจว คยูฮยอน

บทลงโทษของความรักต้องห้ามครั้งนี้คือนางฟ้าซูเซี่ยนถูกปลดจากการเป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์และลงไปใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์เช่นเดียวกับคนธรรมดาโดยไร้ความทรงจำเกี่ยวกับอดีตไม่เว้นแม้แต่อดีตกับโจว คยูฮยอนคนรัก บุตรสาวของนางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนได้รับการเลี้ยงดูโดยโจว คยูฮยอน เด็กหญิงชื่อว่าซองอึนอันแปลว่าพรแห่งสวรรค์………” หนังสือวิเศษร่ายยาวถึงชีวประวัติของนางฟ้าผู้พิทักษ์ซูเซี่ยนก่อนจะเงียบลงไปเพราะแรงปิดหนังสือของเฮ แม้จะแว่วเสียงโวยวายจากหนังสือวิเศษที่เขาปิดไปโดยที่เธอยังรายงานผลการค้นหาไม่จบแต่มือก็ก็วางมันไปแล้วจึงเดินจากมาพร้อมด้วยแววตาครุ่นคิด

…รักบริสุทธิ์ของนางฟ้าผู้พิทักษ์กับมนุษย์อย่างนั้นหรือ

“ทำไมท่านให้ง่ายอย่างนี้ให้กับข้าเล่า” เฮในชุดสีขาวเอ่ยถามดวงตาจับจ้องมองดูผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ คยูฮยอนและจูฮยอนกำลังเดทกันอย่างหวานชื่นในสวนสาธารณะโดยมีซองอึนไปด้วย

“ง่ายงั้นหรือ เฮ” เสียงหวานแหลมถามขึ้น

“ก็ทั้งคู่ผูกพันด้วยความรักอันยิ่งใหญ่มาตั้งแต่แรก ทั้งคู่รักกันแม้เขาจะต้องไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์หรือเธอจะต้องโดนลบความทรงจำ ไม่ยากเลยที่จะเกิดความรักขึ้นอีกครั้งถึงความทรงจำของเธอจะเป็นศูนย์ก็ตาม .. ข้าเลยแทบจะไม่ได้แสดงฝีมือเลย”” เขาตอบตามจริงพร้อมกับบ่นอย่างเสียดาย จริงอยู่ภารกิจอาจจะออกมาสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แต่ถ้าได้แสดงฝีมือมากกว่านี้ก็คงดี

“ข้าไม่ได้อยากให้เจ้าโชว์ฝีมือนะเฮ ข้าอยากให้เจ้ารู้จักรักบริสุทธิ์ หากเจ้าเป็นคิวปิดเต็มตัว เจ้าต้องเห็นคุณค่าของทุกความรัก ไม่ว่าจะเป็นความรักของนางฟ้าผู้พิทักษ์ที่มีต่อมนุษย์ภายใต้การดูแล ความรักของคนธรรมดาสองคน ความรักของพ่อแม่กับลูก หรือความรักของพี่กับน้อง” นางฟ้าแสนงามอธิบายด้วยเสียงแหลมจนปวดหูของเธอ “เห็นไหมล่ะ กับบางครั้งความรักก็แทบจะไม่ต้องการการแผลงศร แค่ร่ายมนต์ให้รถยางแตกกับคนท้องเสียนิดหน่อยเท่านั้นเองว่าไหมเฮ”

“โธ่ท่าน” เฮโอดครวญ

… ถึงจะรุนแรงไปหน่อยแต่ข้าก็ระวังทุกฝีก้าวไม่ให้ไปกระทบใครนะท่านเจสสิก้า

“เจ้าบรรลุเป้าหมายโดยไม่ได้ละเมิดข้อบังคับใด ไม่ได้ขัดขวางความรักของคนอื่น ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของคิวปิดตัวอื่น แต่เจ้า….เกือบทำคนชะตาขาดทั้งๆที่ยังไม่ถึงฆาต” เทพธิดารูปงามประเมินผลงานของเขาก่อนจะอธิบายถึงผลของเวทมนต์ที่เฮได้ร่ายไป ทั้งที่ทำให้รถของซึงฮุนยางระเบิดและที่ทำให้เลขาปาร์คท้องเสีย

“เจ้าคิวปิดฝึกหัด เจ้าต้องเรียนรู้อีกเยอะ จากที่ข้าเห็นคงซักอีก 10 ปีล่ะมั้ง” เธอสรุปสั้นๆ

“นะนั่นมัน…..ร้อยปีมนุษย์เลยนะท่าน” ชายหนุ่มในร่างกายทิพย์ร้องโอดโอยทันทีที่สิ้นคำของเจสสิก้า

“เจ้ายังมีเวลาอีกเยอะนี่ใช่ไหมเฮ ยังไงเสียเจ้าก็ยังไม่ได้อยากจะไปเกิดเป็นมนุษย์ที่ไหนไม่ใช่รึ”

Valentine Cupid และ Angel Love
เป็นเรื่องที่เขียนไว้เมื่อวาเลนไทน์ปีที่แล้ว โพสลงบนบล็อคเก่าเมื่อวาเลนไทน์ 2012 พอดี
ตอนที่ย้ายบล็อคก็ตั้งใจว่าจะลงเรื่องนี้ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ (2013) แต่ลืม
สุดท้ายเลยได้อัพในวัน White Day แทน

ทั้ง Valentine Cupid และ Angel Love ยังไม่ได้รีไรท์นะคะ
ภาษายังเป็นของเมื่อปีที่แล้ว ต้องขอโทษถ้ามันจะกากไปบ้าง อ่อนด้อยไปบ้าง
เราติดโปรเจกท์อื่นอยู่คงไม่ได้รีไรท์ในเร็ววัน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทำใจ ^^”

แล้วเจอกันใหม่นะคะ

1 comments
  1. khunnook said:

    หลายเดือนแล้วนะคะที่ไม่มีงานใหม่มาให้อ่านเลย รอนานมากแล้ว เมื่อไหร่จะใจอ่อนสักทีคิดถึงคยูซอค่ะ

ใส่ความเห็น