อ่านตอนนี้ก่อนนะคะ เพื่อความเข้าใจ :’)
The Maknaes Episode … New Year Party
ภายในห้องสีขาวที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแม้จะเต็มไปด้วยข้าวของแต่ก็ดูสะอาดตา ของส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเสื้อผ้าและรองเท้า และที่สำคัญคือเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนเครื่องเกมนั้นเจ้าของห้องตกลงใจว่าจะทิ้งไว้ข้างนอกเพื่อให้คนอื่นๆได้เล่นด้วยหากมีเวลาว่าง ในห้องขนาดกะทัดรัดมีเฟอร์นิเจอร์เพียงน้อยชิ้น แค่เตียง โต๊ะอ่านหนังสือ แลตู้เสื้อผ้าเท่านั้นตามประสาห้องของผู้ชาย ภายใต้ผ้าห่มสีน้ำเงินเข้มมีร่างเล็กๆของหญิงสาวขดตัวนอนอยู่ที่นอนที่ปูไว้ด้วงผ้าปูเตียงสีเข้ากัน ใบหน้าอ่อนใสและสีหน้าที่ผ่อนคลายจากการพักผ่อนทำให้เธอดูน่ารักเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ชายหนุ่มยืนมองภาพตรงหน้า อยากจะให้เวลาหยุดหมุน
…หากได้เห็นภาพอย่างนี้ทุกวันก็คงดี แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
คยูฮยอนยืนคิดอยู่นานว่าจะจัดการกับเจ้าหญิงนิทราตรงหน้าอย่างไร จะปล่อยให้เธอหลับต่อหรือปลุกเธอให้ตื่นเพื่อเตรียมตัวและไปซ้อมการแสดงสำหรับงานปลายปีนี้ดี อีกไม่กี่วันก็จะถึงสิ้นปีพวกเขาศิลปินไอดอลก็มักจะมีงานแสดงคอนเสิร์ตปลายปีของหลายสถานียักษ์ใหญ่ในเกาหลี และในงานคอนเสิร์ตปลายปี SBS Gayo Daejun 2011 ของสถานีโทรทัศน์ SBS ค่าย SM Entertainment จะจัดการแสดงพิเศษโดยศิลปินในค่ายตั้งแต่ Dance Stage ของเขากับสาวๆรุ่นน้อง SNSD ไปจนถึง SM Orchestra เขาและซอฮยอนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงพิเศษทั้งสองโชว์ .. แต่เห็นเธอหลับสนิทอย่างนี้แล้วเขาก็ไม่อยากจะปลุกเธอ โดยเฉพาะยิ่งเมื่อคืนเธอเมาโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นด้วยแล้ว ชายหนุ่มตัดสินใจให้เธอนอนพักอีกซักครู่เมื่อเห็นว่าพอมีเวลา แล้วจึงค่อยปลุกเธอ ส่วนอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้ให้เธอก็ค่อยให้เธอทานบนรถก็แล้วกัน คิดได้ดังนั้นร่างสูงก็หันกลับหลังเพื่อจะออกไปนอนห้อง แต่เสียงงัวเงียของคนเพิ่งตื่นก็ดังขึ้นหยุดเขา
“อปป้า~” หญิงสาวเรียกเขาก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นมานั่งกุมขมับ “ทำไมเค้ามานอนที่ห้องอปป้าได้” ซอฮยอนถามเมื่อดวงตากลมโตสังเกตรอบๆห้อง ความสงสัยแล่นขึ้นมาพร้อมๆกับความปวดหัวจี๊ด .. ไม่ใช่ห้องนอนของเธอกับฮโยยอน แต่เป็นห้องนอนของคยูฮยอนอปป้า!
“เมื่อคืนเธอไปงานปีใหม่กับเพื่อนแล้วเมาไม่ได้สติ” ชายหนุ่มตอบ เขามองคนตรงหน้าแล้วหัวเราะเบาๆเพราะรู้ว่าเธอไม่คุ้นเคยกับอาการเมาเท่าไรนึก มักเน่ผู้เต็มไปด้วยการใช้ชีวิตแบบมีระเบียบแบบแผนไม่ชอบอะไรก็ตามที่บั่นทอนสุขภาพ เหล้าก็เป็นหนึ่งในนั้น หากแต่เธอยอมดื่มไวน์เพราะรู้ว่ามันดีกับสุขภาพและเพื่อเข้าสังคม และอีกอย่างเพราะ…คงเป็นเพราะเขา เขาชอบดื่มไวน์ การดื่มไวน์กับเธอทำให้เขารู้ว่าจริงๆแล้วซอฮยอนคอแข็งมาก เธออาจจะดื่มได้มากพอกับทิฟฟานี่หรือซันนี่เลยก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อดื่มไวน์แล้วไปดื่มแอลกอฮอล์อย่างอื่นที่เป็นส่วนประสมของพันช์ก็ไม่พ้นเมาเหมือนเมื่อวาน
“ปวดหัวล่ะสิเรา” คยูฮยอนถามเสียงนุ่ม “ดันไปดื่มพันช์เพราะนึกว่าเป็นน้ำผลไม้ แถมยังดื่มไวน์ไปก่อนเลยตีกันยุ่งล่ะสิ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่ข้างเตียง มือหนาๆยื่นไปลูบผมคนที่นั่งหน้าตาสับสนอยู่บนเตียง
“แล้ว…” หญิงสาวยังคงถาม ภาพเมื่อคืนเริ่มโผล่เข้ามาให้หัวทีละภาพร้อยเรียงเรื่องราวเมื่อคืนให้แจ่มชัดขึ้น ใบหน้าขาวค่อยๆแดงขึ้นจนเกือบกลายเป็นมะเขือเทศสุกเมื่อเริ่มระลึกได้ว่าเธอเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคืน
…บ้าจริงซอ จูฮยอน!
“เธอดื้อเล็กน้อยตอนเมา แต่ก็หลับไปบนรถ โชคดีที่พวกชางมินอยู่อปป้าเลยมีคนช่วย ส่วนเสื้อ….เธอลุกขึ้นมาเปลี่ยนเอง” เขาเล่าอย่างขำๆ ซอฮยอนน่ารักไม่เว้นแม้กระทั่งตอนเมา เธอเมาหลับไปบนรถแต่เมื่อถึงห้องเธอกลับตื่นมาทำตาใสแจ๋วจนเขาคิดว่าเธอสร่างเมาแล้ว หญิงสาวจัดการอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเองก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงนอนหลับปุ๋ยเป็นเด็กๆ แถมก่อนอาบน้ำยังมีการร้องหาชุดนอนเสียด้วย เขาจึงต้องคุ้ยหาเสื้อของเขาที่เธอพอจะใส่ได้ให้ไป
“ฮิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง~” เสียงหญิงสาวร้องเสียงประหลาด มือเล็กๆปิดหน้าด้วยความอับอายในสิ่งที่คยูฮยอนเล่า เสียงทุ้มๆของคยูฮยอนที่เล่าเรื่องราวเมื่อคืนด้วยความขบขันเป็นคำบรรยายภาพในหัวเธอเป็นอย่างดีจนบางทีอาจจะดีเกินไป นิ้วเรียวยาวแหวกออกน้อยๆเพื่อมองดูคนที่กำลังหัวเราะขัน
“ไม่เป็นไรซักหน่อย เธอเมาพี่ก็ว่าน่ารักไปอีกแบบ” ชายหนุ่มคว้าตัวเล็กๆของเธอให้เอนเข้ามาหาตัวเขาแต่หญิงสาวกลับขืนตัวออกห่าง
“เค้าเหม็น อปป้าอย่ากอดเค้าเลย” ไม่ทันสิ้นคำร่างนุ่มนิ่มก็ลอยหวือไปอยู่แนบอกชายหนุ่ม คยูฮยอนไม่ใช่คนร่างฉกรรจ์แต่ก็ไม่ได้อ้อนแอ้นบอบบางอย่างที่ใครๆคิด และสำหรับซอฮยอนแล้วมันอบอุ่นกว่าอ้อมอกของชายไหนเธอขยับตัวเล็กน้อยให้เขากอดได้ถนัดขึ้น
คยูฮยอนหัวเราะหึๆเมื่อเห็นร่างบอบบางที่อยู่แนบอกเริ่มจะผ่อนคลายลงก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนหญิงสาวที่ยังนั่งอยู่บนเตียงตกใจ .. ตามอารมณ์เขาไม่ทัน
“อปป้าจะไปไหนคะ” เธอถามขึ้นอย่างสับสน เมื่อครู่คยูฮยอนยังทำท่าทางเป็นอปป้าใจดีแต่อยู่ดีๆก็กลับลุกหนีเธอซะอย่างนั้น ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าอย่างเต็มไปด้วยคำถาม
ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าเขา ร่างบอบบางในชุดเสื้อผ้าหลวมโคร่ง เสื้อผ้าขนาดพอดีสำหรับเขากลายเป็นใหญ่ไปสำหรับเธอ กางเกงนอนตัวที่ยาวจนเลยขาปกปิดไปทุกส่วน แต่สำหรับเขากับเห็นเป็นเรือนร่างน่ามอง ผมยุ่งๆกับหน้าตาเพิ่งตื่นนอนแบบที่ร้อยวันพันปีก็คงไม่ได้เห็น ในวันนี้เขาได้เห็นทั้งหมดนั้นและมันสวยจนเขาไม่อยากจะเชื่อสายตา สำหรับคยูฮยอนแล้วยิ่งได้เห็นเธอมากขึ้นเท่าไร ยิ่งได้รู้จักเธอมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นเท่านั้น
“อปป้าจะไปเอาอาหารเช้ามาให้” เขาตอบสั้นๆแบบนั้น คยูฮยอนไม่สามารถเอ่ยความในใจให้เธอรู้มากไปกว่านี้ เขาไม่อาจให้เธอรู้ได้ว่าเธอสำคัญสำหรับเขามากแค่ไหน เขากลัวเธอจะตกใจที่ได้รู้…ว่าต่อไปนี้เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดมือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ทั้งที่ตั้งใจไว้ตอนแรกว่าจะทำอาหารเช้าไว้ทานบนรถระหว่างเดินทางไปบริษัทเพื่อซ้อมการแสดงตามตารางที่ได้รับมอบหมาย แต่เมื่อซอฮยอนตื่นเร็วกว่าเวลาที่เขาตั้งใจไว้แผนการเลยเปลี่ยนกะทันหัน คยูฮยอนทำอาหารเช้าเป็นแซนวิซง่ายๆ ต้องขอบคุณเรียวอุคที่มักจะซื้ออาหารมาตุนไว้เสมอตามประสาคนชอบทำครัวแม้เวลาจะไม่เอื้ออำนวย เขาชงโกโก้ร้อนสำหรับตัวเองและชามะนาวสำหรับเธอ
เขาวางแก้วชามะนาวหอมกรุ่นที่ยังคงมีควันฉุยมาวางตรงหน้าหญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนตัวโคร่ง อีกมือถือแก้วโกโก้สำหรับตัวเอง มือหนาจับช้อนคนโกโก้จนเสียงกระทบแก้วดังกรุ้งกริ้ง ซอฮยอนมองอาหารตรงหน้าทั้งแซนวิซ ผลไม้ รวมไปถึงชามะนาวของโปรด แม้ไม่ใช่อาหารเช้าที่เริดหรูแต่นั่นก็มากมายแล้วถ้ามาจากผู้ชายที่ชื่อโจว คยูฮยอน .. คนที่ต้มมาม่าก็ยังไม่อร่อย
“เค้าไม่อยากกินชามะนาว” เสียงหวานเอ่ยขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับคนที่ตั้งใจทำทุกอย่างตรงหน้าสุดฝีมือ “เรามาแลกกันนะคะ” ร่างบอบบางโน้มตัวมาใกล้ขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือหยิบแก้วโกโก้ไปจากมือเขา สองมือน้อยค่อยๆประคองโกโก้ร้อนอย่างระมัดระวังก่อนยกขึ้นจิบเบาๆด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างนึกขัน บางครั้งบทซอฮยอนจะเป็นเด็ก เธอก็เป็นเด็กได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาเอื้อมมือหยิบชามะนาวจากตรงหน้าเธอขึ้นมาจิบพร้อมกับเอ่ยขึ้นลอยๆจนเธอขว้างค้อนไปให้แทบไม่ทัน “ซอฮยอนแสนใจดีแต่ชอบแย่งโกโก้คนอื่นกิน”
ครั้นเห็นท่าไม่ค่อยดีจากดวงโตกลมโตที่จ้องอย่างหมายมากว่าจะเอาคืนเขาอย่างไรซักทาง คยูฮยอนก็รีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงดูดความสนใจของคนตรงหน้า “เดี๋ยววันนี้ไปพร้อมกันนะ พอเธอไปอาบน้ำเสร็จก็ไปเลย”
“ไม่ได้ค่ะ!”
คยูฮยอนมาถึงห้องซ้อมช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขากวาดตามองรอบๆเพื่อสำรวจแต่กลับไม่พบคนที่มองหายังไม่ทันทีคยูฮยอนจะเอ่ยอะไร ประตูห้องซ้อมที่เปิดปิดไปกลับเปิดออกขึ้นมาใหม่พร้อมด้วยเสียงหัวเราะที่แสนจะคุ้นหู
“นี่ไงซอฮยอนนี่ คู่เธอมาพอดี” เขาหันหลังกลับไปเพื่อพบกับหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ยืนอยู่เคียงข้างกับอนนี่คนสนิทของเธอ ฮโยยอน ทั้งสองหอบขวดน้ำมากมายจนเข้าต้องเข้าไปช่วยถือแต่เมื่อแขนทั้งสองสัมผัสกัน ซอฮยอนกลับปล่อยขวดน้ำทั้งหมดลงโดยที่ชายหนุ่มเองก็รับไว้แทบไม่ทัน คยูฮยอนและซอฮยอนช่วยขวดน้ำดื่มมากมายหล่นกระจายอยู่ที่พื้น
“ขอโทษค่ะ..อปป้า” หญิงสาวเอ่ยเพียงเบาๆไม่สบตา
เขาไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแต่ช่วยเธอเก็บขวดน้ำทั้งหมดที่หล่นอยู่ตามพื้นแล้วแจกจ่ายให้เมมเบอร์ที่อยู่ภายในห้องซ้อม
“คยูฮยอน นายคู่กับซอฮยอนเหมือนเดิม เค้าตกลงกันแล้วว่าคราวนี้จะจับคู่ตามความสูง ทงเฮจะได้ไม่ต้องเสริมส้นมากนัก” อีทึกบอกก่อนที่จะเริ่มซ้อมเต้น routine ใหม่ที่จะใช้ในงาน SBS Gayo Daejun 2011
“ฮะ” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆแล้วจึงเริ่มเข้ากลุ่มไปซ้อมเต้นกับพวกพี่ๆ
ทั้งวันคยูฮยอนและซอฮยอนสองมักเน่สายร้องที่หัวไวในการต่อท่าเต้นใหม่ไม่แพ้สายเต้นกลับเต้นผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะเมื่อต้องสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวกัน ราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจนต้องหยุดนิ่งเพื่อปรับจูนเสียใหม่ก่อนที่จะเต้นท่าต่อไปได้
“วันนี้พวกนายสองคนเป็นอะไรกันหะ เต้นผิดกี่รอบแล้วเนี่ย” อีทึกเริ่มรับบทพี่ใหญ่ควบคุมน้องๆ เขาและเมมเบอร์สังเกตถึงอาการประหลาดของเจ้าสองมักเน่ที่ปกติจะหนุงหนิงหงุงหงิงกันตลอด แต่วันนี้กลับนิ่งๆเงียบๆ ไม่พอยังเหมือนกับคนไม่มีสมาธิในการซ้อม เวลาแยกกันซ้อมก็ดูปกติดี พอซ้อมด้วยกันเมื่อไรนี่ราวกับหายนะมาเยือน
“นั่นสิมักเน่ หรือพวกเธอไปทำอะไรกันมา” แทยอนมองหน้าคยูฮยอนสลับไปมากับซอฮยอน ก่อนจะชี้นิ้วไปที่หน้าอปป้าคนเล็กอย่างคาดคั้น “อปป้า!!!”
“เฮ้ยยย!!!” ไม่ใช่แค่คยูฮยอนที่ตกใจกับท่าทางของแทยอน แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรวมไปถึงซอฮยอนก็ช็อคไม่ต่างกัน
“เฮ้ยยยย!!! ไม่ใช่อย่างนั้นไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกน่า” ร่างสูงยกมือโบกเพื่อปฏิเสธอย่างแข็งขัน
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงพวกเธอสองคนก็ต้องเต้นให้ได้ก่อนแสดง” อีทึกบอกสั้นๆ
“แต่พวกเราเต้นได้กันแล้วนะฮยอง” ทงเฮค้าน “ให้พวกเราพักก่อนไม่ได้เหรอ”
“โอเค พวกเราเลิกซ้อม .. แต่คยูฮยอน ซอฮยอนซ้อมกันต่อนะ จนกว่าจะได้นั่นแหละ”
“ไม่ได้ค่ะ!” เสียงหวานใสตอบขึ้นทันทีที่ได้ยินเขาบอกว่าจะนั่งรถไปบริษัทด้วยกัน ราวกับว่าเป็นคำสั่งที่ตั้งไว้อยู่ในหัว แทบจะไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรอง หากแต่เป็นไปโดยอัตโนมัติ แล้วหญิงสาวจึงอธิบายต่อเมื่อเห็นท่าทีสงสัยของอีกฝ่าย “ก็แล้วแฟนๆของอปป้า…”
“อปป้าไม่เคยคิดจะปิดเรื่องของเรากับใคร” ชายหนุ่มตอบอย่างสัตย์จริง ดวงตาคมมองที่คนตรงหน้าเพื่อยืนยัน
“เค้ารู้..” ซอฮยอนเสียงอ่อนลงเมื่อได้ยินคำของคนตรงหน้า
“อปป้าอยากให้เราได้ไปไหนอย่างเปิดเผย ไปที่ที่เธออยากไป ทำอะไรที่เธออยากทำ เป็นแค่คู่รักธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่คู่รักไอดอล ไม่ใช่คู่รักมักเน่ .. แต่เป็นคยูฮยอนกับจูฮยอน” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขารู้สึกแบบนี้ การทำงานแบบนี้ทำให้เรื่องธรรมดาๆของหลายคนกลับยากขึ้นเป็นเท่าตัว
“อปป้า….”
“เธออาจจะไม่รู้ .. โจว คยูฮยอนน่ะ เค้าจริงจังกับเธอมากนะ” ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่คยูฮยอนลุกจากโต๊ะอาหารฝั่งตรงข้ามมายืนอยู่ที่ตรงหน้าเธอ มือหนาจับที่ไหล่กลมมนแน่นเธอทั้งๆที่เธอยังนั่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะโน้มตัวลงมาหยุดที่ตรงหน้าเพื่อประสานสายตา
“อปป้าอาจจะไม่รู้ .. ซอ จูฮยอนน่ะ เค้าจะจับมือคนนั้นไว้ไม่ว่าจะยังไงเหมือนกัน” หญิงสาวเอ่ยตอบ ดวงตากลมโตใสแจ๋วยังคงมองเขานิ่งอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากบางยิ้มให้คนตรงหน้าในขณะที่มือเรียวบางเอื้อมไปจับมือหนาของอีกฝ่ายแล้วยกขึ้นให้เขาดู
“เธออาจจะไม่รู้ .. โจว คยูฮยอนน่ะ เค้าอยากตีตราจองเธอไว้ หนุ่มๆอื่นจะได้ไม่กล้าจีบ” ชายหนุ่มเอ่ยย้อน ดวงหน้าที่ห่างกันเพียงไม่ถึงคืบจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย คยูฮยอนค่อยๆลดระยะทางจดจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากกลมมนราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ
“อปป้าอาจจะไม่รู้ .. ซอ จูฮยอนน่ะ เค้าอยากจะบอกไอดอลหญิงทั้งวงการเหมือนกันว่าอปป้าน่ะของเธอ” เธอตอบกลับพร้อมกับเอียงคอมองเขาอย่างน่ารัก
“หรือเธอไม่มั่นใจในตัวอปป้า .. เมื่อคืนไม่ได้สร้างความมั่นใจให้เธอหรอกหรือว่าไม่ว่าเธอจะสภาพแย่แค่ไหนอปป้าก็รับได้น่ะ” ชายหนุ่มพูดแซวคนตรงหน้าอย่างขำๆแล้วจึงยกมือขึ้นมาบีบที่จมูกเล็กได้รูปของเธอเบาๆ
“อ๊ะ!” เสียงเล็กร้องขึ้นเมื่อโดนแกล้งแถมยังโดนเขาแหย่เรื่องเมื่อคืนเสียด้วย แต่ยังไม่ทันได้ทำร้ายคนตัวโตกว่ากลับให้สมกัน ริมฝีปากเรียวสวยกลับถูกประกบแนบสนิทด้วยริมฝีปากหนา ก่อนที่ลิ้นร้อนจะแทรกเข้ามาทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญ เพียวชั่ววินาทีกลับเหมือนยาวนาน ทุกอย่างรอบตัวช่างนุ่มนวลราวกับมีเสียงดนตรีมาบรรเลงใกล้ๆที่ข้างหูก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง
“พอ” เขาพูดหลังจากที่ถอนจูบออกมาจากริมฝีปากช่างเจรจา ดวงตามองเธอแน่นิ่งก่อนจะพูดต่อ “เดี๋ยวอปป้าไปส่งเธอที่หอ เธอไปพร้อมฮโยยอนได้ไหม แล้วซ้อมเสร็จอปป้าไปส่งบ้าน .. เธอไปอาบน้ำได้แล้วไป”
“แต่มันยังไม่ถึงเวลานี่คะ” สาวน้อยในชุดนอนตัวโคร่งยังคงตั้งคำถาม
“ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ .. เราอาจจะไม่ได้ไปซ้อมแล้วเราอาจจะได้แต่งงานเร็วขึ้น กลายเป็นคู่แต่งงานไอดอลไปเลย” ชายหนุ่มให้เหตุผลแบบกวนๆทั้งที่ใบหน้าเริ่มขึ้นสีเลือดฝาดเบาๆ อาย..ที่ต้องบอกว่าเขาต้องการเธอทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลา ส่วนหญิงสาวเอง ใบหน้าขาวใสก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ดทันทีเมื่อได้ฟังเหตุผลก่อนจะรีบวิ่งจู๊ดเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวตามที่เขาว่า
“โอเค พวกเราเลิกซ้อม .. แต่คยูฮยอน ซอฮยอนซ้อมกันต่อนะ จนกว่าจะได้นั่นแหละ”
สิ้นคำของอีทึก หนุ่มๆ Super Junior และสาวๆ Girls’ Generation ต่างก็ค่อยๆเดินทยอยๆกันออกมา ทงเฮโบกมือให้กับคยูฮยอนก่อนเดินหน้าชื่นตามยุนอาไป มีความสุขแท้ๆที่ได้มอบโชคให้เจ้ามักเน่ตัวแสบของวง เขารู้คยูฮยอนไม่ได้ลำบากใจอะไรที่ต้องอยู่ซ้อมกับซอฮยอน ออกจะชอบมากกว่าด้วยซ้ำ
ห้องที่เต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่ตกอยู่ในความเงียบสงบทันทีที่ประตูห้องปิดลง ซอฮยอนได้แต่มองห้องที่บุผนังเป็นท้องฟ้าราวกับว่าเธอนั่งอยู่บนปุยเมฆ ดวงตากลมโตใสลอบมองคนข้างๆเป็นระยะๆจนในที่สุดคยูฮยอนก็ทนนิ่งอยู่ไม่ไหว
“เลิกเป็นแบบนี้เถอะน่า” ชายหนุ่มโอดโอยพร้อมกับดึงคนตัวเล็กกว่าให้เลื่อนเข้ามาใกล้
“เป็นอะไรคะ” เธอถามกลับ
“แบบนี้ไง” เขาพยายามจะอธิบายหากแต่สุดปัญญา ไม่รู้จะอธิบายความหมายของคำว่าแบบนี้ได้ยังไงกัน สุดท้ายร่างสูงจึงรวบตัวเธอเข้ามากอดแน่นพร้อมกับตั้งคำถาม “ปกติเธอไม่เคยเป็นแบบนี้เวลาอปป้ากอดซักหน่อยไม่ใช่เหรอ”
ดวงหน้าหวานขึ้นสีชมพูแปร้ดยิ่งกว่าทาบรัชออน เมื่อคิดถึงความหมายที่สิ่งที่คนรักพูดขึ้นเมื่อตอนเช้าก่อนมาซ้อมก็พาลเอาเขินทุกทีไป แถมยิ่งเธอออกอาการ เขาก็กลับทำท่าเคอะเขินไม่พูดจา ยิ่งทำให้เธออายหนักขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ซอฮยอนพยายามคิดว่าจะอธิบายอาการแบบนี้ได้อย่างไร เธอไม่ได้รังเกียจ หัวใจของเธอสั่นหวิวเมื่อได้ยินว่าเค้าต้องการเธอ แต่จะให้บอกไปอย่างนั้นน่ะหรือ ถ้าทำอย่างนั้นแล้วมันจะจบลงที่ไหนกันแน่ เธอเองก็ไม่อาจบอกได้
“ก็…”
“ขอแสดงความรักไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มรวบรัดไม่ฟังคำอธิบายใด คยูฮยอนทาบริมฝีปากบางเบาๆพร้อมกับเคลื่อนไหวช้าๆ หัวใจของสาวน้อยเต้นระรัว เวลาเพียงวินาทีกลับยาวนานจนเหมือนตลอดไป หากแต่เธอไม่อยากให้วินาทีนี้สิ้นสุดลงเลย ซอฮยอนในตอนนี้เหมือนมีเขาจับจูงให้เดินบนปุยเมฆขาว เขาทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเป็นนางฟ้าบนสรวงสรรค์
“ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อยนี่คะ” เสียงหญิงสาวตอบแผ่วหวิวเมื่อริมฝีปากบางเป็นอิสระ “ก็แค่ .. อปป้าเขิน เค้าก็เขินไปด้วยน่ะสิ”
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆเมื่อได้ยินคำตอบแสนน่ารักนั้น เขารู้ว่าที่เธอเงียบเอาแต่ก้มหน้างุดๆก็เพราะเรื่องนั้น เขาเองไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเขารู้ว่าเธอเองก็ต้องการเวลา เขารักทุกอย่างที่ซอฮยอนเป็นแบบนี้ เขารักทุกอย่างที่มีร่วมกันกับเธอ แน่นอนว่าเขามีความต้องการ เขาแค่บอกให้เธอรู้ว่าเขาเองก็เป็นเฉกเช่นผู้ชายทั่วไป แต่เขาอยากให้เธอมั่นใจไว้ว่าไม่ว่าจะอย่างไร ผู้ชายอย่างโจว คยูฮยอนจะดูแลทนุถนอมเธออย่างดี ไม่ฉวยโอกาสจากเธอ .. ก่อนเวลาอันควร
เขาได้พิสูจน์ไปแล้วไม่ใช่หรือ