Seoul 2012 : เดินเล่นย่านมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวบ้านฮาน่า

หลังจากที่กายหยาบบอบช้ำมาจากสามวันที่ผ่านมา เดินเยอะ กินไม่เป็นเวลา จากตอนแรกที่คิดว่าจะไปมหาวิทยาลัยดงกุกและมหาวิทยาลัยคยองฮีวันนี้เพื่อให้เป็นวันตะลุยมหาวิทยาลัยไปเลย เลยเปลี่ยนว่าจะตื่นสายหน่อย .. ได้ข่าวว่าสายเป็นปกติ -_-” .. เดินน้อยหน่อย แผนการวันนี้ก็เลยเหลือแค่ฮงแด อีแดก่อนแล้วมหาวิทยาลัยน้องค่อยไปวันหลัง เรายังมีเวลา แต่ถ้าเราทรมานร่างตั้งแต่ตอนนี้ เราอาจจะไม่มีเวลาเที่ยวเพราะต้องนอนซมเฉยๆ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะไปเดินเล่นแอ๊บเป็นเด็กมหาวิทยาลัยกันค่ะ

Day 4 : Hongdae, Four Seasons House, Sinchon, Edae

Hongdae
How to go : Subway Line 2 ลงที่ Hongik University Station, Exit 8 9 หรือ Hapjeong, Exit 3 4 แล้วแต่ว่าอยากจะเดินขึ้นเหนือหรือล่องใต้

เพราะรู้ว่าสถานที่ที่จะไปวันนี้ ร้านรวงผู้คนจะเริ่มมีชีวิตกันตอนสายๆแบบสิบโมงไปแล้ว เราเลยกะว่าจะไปกินข้าวเช้าที่ Kona Beans ก่อน อยากจะอุดหนุนร้านของน้องให้ได้แต่เมื่อวานมาดูลาดเลาแล้วคนเยอะเชียว วันนี้เลยลองมาดูด้วยคิดว่าเป็นวันจันทร์ คนอาจจะไม่เยอะมาก ที่ไหนได้ .. คนเต็มร้านเลยค่ะ ㅠㅠ .. ผู้หญิงตัวน้อยอย่างเราทอดถอนใจ ดูท่าเข้าไปยังไงก็ไม่มีที่ให้นั่งแน่ๆ ต่อแถวซื้อน่ะได้แต่อาจจะไร้ที่กิน มันเป็นความคิดที่แย่มากสำหรับเรา เราเลยตัดสินใจว่าไปหาคาเฟ่ใกล้ๆคนน้อยๆแถวอับกุจองกินแล้วกัน

เราเดินมาเรื่อยๆกลับมาที่สถานีรถไฟ Apgujeong เดินหลายรอบก็พอรู้ว่ามีร้านไหนถูกชะตาบ้าง เห็น Waffle Bant ร้านฟ้าๆน่ารักดีเลยตัดสินใจว่าวันนี้จะแง้บอาหารเช้าที่ร้านนี้แหละ พอเดินเข้าไปร้านโล่งแต่ดูอุ่นๆมากเลยล่ะค่ะ คนขายก็เป็นกันเองมากทีเดียว หลังจากกวาดตามองเมนูแล้วก็ตัดสินใจสั่ง Green tea latte กับ Original waffle ไป นั่งรอซักพักเดียวก็ได้แง้บสมใจ ชาเขียวหวานไปหน่อย ส่วนวัฟเฟิลโอเคนะคะ หอม หวานนิดๆแต่ไม่หวานไป ระหว่างที่นั่งแง้บก็มีคนเดินเข้ามาสั่งแบบ to-go เรื่อยๆ ร้านเค้าก็น่าจะโอเคอยู่นะ (มาสังเกตทีหลังว่ามีสาขาที่อื่นด้วย 555′)

20120913-112352.jpg20120913-113355.jpg

จัดการเรื่องปากท้องของประชาชนเสร็จสิ้นเราก็เดินทางต่อค่ะ คราวนี้มุ่งหน้าไปฮงแดเลย

ย่านมหาวิทยาลัยฮงอิกและย่านมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาคือที่ที่เราจะไปเดินสำรวจกันวันนี้ คนอ่านอาจจะงง อะไรกัน บอกว่าวันนี้จะไปฮงแด อีแด ไหงไปๆมาๆคือมหาวิทยาลัยฮงอิกกับมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาซะงั้น ในภาษาเกาหลี คำว่าแดฮักกโย (대학교) แปลว่ามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฮงอิกก็คือ “ฮงอิกแดฮักกโย/홍익 대학교” เรียกสั้นๆก็คือฮงแดนั่นเอง เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาชื่อเกาหลีก็คือ “อีฮวายอจาแดฮักกโย/이화 여자 대학교” ที่เรียกให้ง่ายสบายปากขึ้นก็คืออีแด

ฮงแดเป็นแหล่งรวม ร้านค้า ร้านอาหาร คลับ บาร์ รวมทั้งเป็นถนนแสดงงานศิลป์อาร์ตๆอะไรพวกนั้น เราไปฮงแดแบบกะว่าจะไปหม่ำข้าวกลางวันที่ร้านที่เจอในหนังสือเต็มที่แล้วก็อาจจะไปเดิน free market แถวๆนั้นแล้วก็ไปดู 1st Shop of Coffee Prince .. อยากดูภาพดอกทานตะวันในร้าน .. แล้วค่อยไปดี๊ด๊าต่อที่อีแด ไม่ได้ตั้งใจมาเสพย์งานศิลป์หรอกค่ะ

เรามาถึงฮงแดในวันฝนตก เด็กนักศึกษาเดินกันตามถนนเส้นหลักที่มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัย เราเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงแยกหน้ามหาวิทยาลัยครู่นึงก่อนที่จะเดินต่อเข้าไปตามแยกเล็กแยกน้อยต่อ มีอยู่ช่วงถนนนึงที่มีกราฟฟิตี้เยอะมาก บางอันสวยเกินไปจนน่าประหลาดใจ พอเดินมาเรื่อยๆถึงได้เจอโรงเรียนสอนกราฟฟิตี้อยู่ในซอย ต้นเหตุของสารพัดลายบนกำแพงมาจากที่นี้นี่เอง แบบว่าเยอะมากจริงๆแม้แต่ในห้องน้ำก็ไม่เว้น

20120913-114223.jpg20120913-114359.jpg20120913-114431.jpg20120913-114505.jpg20120913-114539.jpg
20120913-114830.jpg

Four Seasons House (Yoon’s Studio)
Address : Seoul-si Jung-gu Myeongdong 10-gil 29 (Myeongdong 2-ga)
How to go : Subway Line 4 ลงที่ Myeongdong Station, Exit 6, 7, 8 ได้หมดเลยแต่ Exit 8 ใกล้ที่สุด
Operating hours : 10:30 – 21:30 hrs
Price : 8,000 KRW +

จริงๆเราลังเลมากว่าจะไปดู Four Seasons House ดีไหม .. ก็กะว่าจะเดินไปเรื่อยๆตามใจตัวเองนั่นแหละ แต่จะเดินไปทิศที่บ้านตั้งอยู่แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่ขวนขวายจะต้องไปดู ถ้าเจอก็เข้าไปเยี่ยมชมซักหน่อยคงไม่เสียเวลามากนัก

พอเราเดินมาก็เริ่มเห็นร้านคาเฟ่ที่หนังสือแนะนำ ร้าน Mug of Rabbits และเดินไปอีกนิดคือ Vinyl เล็งไว้แล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะกลับมานั่งร้านกระต่ายหลังเสร็จกิจ ถ้าจำไม่ผิดเรายืนหมุนตัวอยู่หน้า Vinyl อยู่แป๊บนึง เพราะคิดว่ามาถูกแล้ว พิกัดน่าจะอยู่แถวนี้แต่ดันหาไม่เจอ จนเห็นป้าย Four Seasons House เล็กๆหน้าซอย ดีใจแทบกรี๊ด ประมาณว่าดีใจที่เซนส์ด้านถนนหนทางยังดีอยู่ แล้วก็ทำตัวเป็นคนดี เดินกลับมาข้ามถนนตรงทางม้าลาย

บ้านสี่ฤดูหรือ Four Seasons House เป็นสถานที่ทำงาน ของผู้กำกับ ยูน ซอคโฮ ผู้สร้างละคร 4 ฤดูเรื่อง Spring Waltz, Summer Scent, Autumn in my Heart และ Winter Sonata ภายในบ้านใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำ Spring Waltz แสดงข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในการถ่ายทำของละครสี่ฤดู นั่นคือสิ่งที่เรารู้มาในตอนแรกค่ะ เราเคยดูละครของผู้กำกับท่านนี้อยู่บ้างอย่างน้อยก็สองสามเรื่่องจากละครสี่ฤดูเลยคิดว่าอยากเห็น แต่ไม่ได้จำเป็น พอมาถึงหน้าปากซอยขนาดนี้แล้ว….ยังไงก็ต้องไปดูค่ะ

สองขาก้าวไปตาทางมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านที่คิดว่าเป็นบ้านสี่ฤดู ภาพตรงหน้ามันคุ้นสุดๆจนคิดว่าฝันเลยค่ะ แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ความมั่นใจของเราก็ยิ่งชัดเจนขึ้น .. บ้านฮาน่า

20120913-124349.jpg

20120913-124513.jpg

เราค่อยๆเดินเข้าไปในบ้าน เห็นสวนเขียวๆ ร้านกาแฟคุณหมอ และบ้านสีเหลืองหลังน้อย แถมข้างฝายังแอบมีรูปจุนที่กำลังถ่ายภาพฮาน่าขนาดเท่าฝาบ้านเหมือนยืนยันให้กับคนที่กำลังงงๆไม่มั่นใจอย่างเรา เราเดินวนไปเข้าบ้านทางด้านหลังที่มีเขียนว่า Jun’s Studio เพราะด้านหน้าดูดีไป เค้ากลัว ㅠㅠ

ภายในร้านเป็นร้านคาเฟ่แหละค่ะ มีแฟนนั่งอยู่และบางคนก็เดินถ่ายรูปสำรวจเหมือนเราเลย แต่เค้าน่าจะดีกว่าเพราะดูท่าเหมือนรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน ในขณะที่เรายังดูงงๆ เดินสำรวจอยู่เราก็เจอของมีค่า เหมือนเจอสมบัติเลยค่ะ ภาพวาดฮาน่าที่อยากเห็นมานาน ยืนมองอยู่พักนึงก่อนจะตั้งสติถ่ายภาพ

เราเดินสำรวจชั้นสองที่เป็นส่วนที่พักของจุนและฮาน่าตามท้องเรื่องก่อนจะเดินไปสำรวจห้องใต้ดินที่เป็นส่วนแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในละครสี่ฤดูและ Love Rain ก่อนจะไปจบที่บ้านสีเหลืองหลังน้อยที่ภายฝนจัดเป็นส่วนแสดงของ Summer Scent สวยมากทีเดียวค่ะ คนไม่เคยดูละครเรื่องนี้อย่างเรายังชอบเลย

20120913-124723.jpg

20120913-124832.jpg

เราใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้ในบ้านสี่ฤดู ก้าวแต่ละก้าวของเราก้าวไปอย่างช้าๆ รู้สึกตื้นตันตลอดเวลาเลยค่ะกว่าจะลาบ้านฮาน่ามาได้ในที่สุด ดีใจมากๆที่ได้เห็นบ้านฮาน่าเพราะเป็นการพบโดยบังเอิญ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงดีใจได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะมันเป็นงานชิ้นนึงของยัยยุนมากกว่าที่จะเป็นเพราะละคร Love Rain เป็นเพราะครั้งนีงยุนอาเคยมาทำงานไม่หลับไม่นอนที่นี่เลยทำให้ดีใจที่ได้มายืนในบ้านหลังนี้

…ขอบคุณตัวเองที่ยังมีเซนส์ด้านทิศทางบ้าง

…ขอบคุณที่ไม่คิดเดินเลยบ้านสี่ฤดูไปโดยที่ไม่เข้าไปดู

…ขอบคุณที่เราได้เห็นภาพวาดฮาน่าที่เราอยากเห็นด้วยตาตัวเอง

และเพราะว่าถ่ายรูปที่นี่มาเยอะเกินกว่าจะใส่ในไดอารี่เลยเปิดอีกโพสเพื่อฮาน่าและจุน ^^ อยากให้คนที่ไม่ได้ไปได้เห็นบ้านฮาน่าด้วยกัน ลองกดไปดูภาพกันนะคะ

Four Seasons House : Jun’s Studio and Hana’s House

ชมบ้านฮาน่าสบายใจเราก็ออกมาคาเฟ่กระต่ายน้อย Mug of the Rabbit เหมาะพอดีเลยค่ะ เพราะเราต้องพักพอและฝนก็ตกหนักขึ้น เราสั่ง Green Tea Latte อีกแล้ว ด้วยว่าเป็นคนไม่ดื่มกาแฟเลยตั้งใจว่าวันนั้นไม่ว่าจะเดินเข้าคาเฟ่ไหนก็จะสั่งชาเขียวเรื่อยไปนี่แหละ เพราะอาจจะเดินเข้าอีกหากถูกชะตา หลังจากสำเร็จโทษชาเขียวอีกแก้วไปฝนก็เริ่มซา ได้เวลาเดินเตาะแตะต่อแล้วค่ะ

20120913-115052.jpg20120913-115124.jpg20120913-115154.jpg

จริงๆแล้วเราแพลนว่าจะไปแง้บๆอาหารที่ร้านร้านนึงในฮงแดเลยไม่ได้ทานอะไรรองท้องเลย แต่ดันหาไม่เจอทั้งๆที่มั่นใจในแผนที่ สุดท้ายเราเลยเดินดูนั่นนี่ในฮงแดไปเรื่อยๆ ไม่กินก็ได้ รวบยอดไปกินที่อีแดเลยแล้วกัน เพราะเจ้าชาเขียวนมนี่ก็ไปกองเต็มท้องอยู่ เราเดินไป 1st Shop of Coffee Price ตอนแรกไม่มั่นใจอีกแล้วค่ะว่าถูกซอยแต่เห็นคนกลุ่มนึงประมาณ 4-5 คนยืนอยู่ด้านหน้ามองเข้าไปด้านในก็พอจะมั่นใจว่าใช่ เราลืมไปเลยค่ะว่าสาขาแรกนี่ปิดไปแล้วจนพอไปถึงเห็นบ้านปิดพร้อมป้าย Big Project ก็นึกได้ว่าเคยมีคนโพสแล้วนินา ดีเลย์ไปนาน -_-” ว่าแล้วก็กดๆถ่ายรูปทั้งที่ปิดๆมานิดหน่อย ใจหายเหมือนกันนะคะ เพราะเป็นหนึ่งในละครเรื่องแรกๆที่ทำให้เรารู้จักเกาหลี ไม่คิดว่าจะถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแล้วทิ้งไว้แค่ความทรงจำดีๆ จากนั้นเราก็เดินต่อเพื่อกลับมาขึ้นรถไฟไป Sinchon

20120913-115424.jpg20120913-115534.jpg20120913-115606.jpg20120913-115805.jpg20120913-115842.jpg20120913-115907.jpg20120913-115939.jpg
20120913-120327.jpg

Sinchon
How to go : Subway Line 2 ลงที่ Sinchon Station, Exit 1 2 3 4 แล้วแต่สะดวกเดิน

Edae
How to go : Subway Line 2 ลงที่ Ehwa Woman’s University Station, Exit 1 2 3 4

ชินชอนเป็นถนนสายสั้นๆที่เป็นอีกย่านมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเดินจากปากทางจนถึงทางรถไฟไม่น่าเกิน 10-15 นาที เราเดินบนถนนหลักดูนั่นนี่เรื่อยเปื่อยเอามากๆ ของเล็กๆน้อยๆขายสมแล้วที่เป็นย่านเด็กวัยรุ่น ที่นี่เป็นที่แรกที่เราถูกคนมาถามทางในเกาหลี ทั้งๆที่หน้าตากะเหรี่ยงขนาดนี้ยังมีคนมาสะกิดถามพร้อมรัวภาษาเกาหลีอีกเป็นชุด เราได้แต่ส่ายหัวไปเบาๆ ถึงรู้ทางไปก็บอกเค้าไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะพูดเกาหลีได้แค่สวัสดีกับขอบคุณเท่านั้น ฮืออออ~ นี่เป็นแค่รายแรกค่าเพราะยังมีคนมาถามอีกเยอะ ^^”

เราเดินชินชอนแค่ถนนหลักไม่ได้เดินซอกเล็กซอกน้อยก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ระหว่างทางที่เดินไปอีแดมีร้านเล็กน้อยๆขายพวกของจุกจิกกุ๊กกิ๊กนั่นนี่ โดยเฉพาะยิ่งใกล้อีแดนี่เหมาะแก่การช้อปปิ้งสุดๆ เราเองก็ล้มละลายเบาๆมาแล้วใน Kosney

20120913-120702.jpg
20120913-120819.jpg20120913-120851.jpg20120913-120916.jpg

เราว่าย่านอีแดต้องเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายหนุ่มหญิงสาวอะ สาวๆมีที่ให้ล้มละลาย มาอีแดเสร็จอาจจะกลับไปพร้อมเสื้อผ้าหน้าผมและของกุ๊กกิ๊ก ส่วนหนุ่มๆก็เจริญตาเจริญใจเพราะสาวๆเกาหลีเต็มไปหมด

20120913-121524.jpg20120913-121606.jpg20120913-121630.jpg20120913-121651.jpg

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เดินเพลิน พอนึกได้ว่าต้องเดินหาร้านอาหารก็เดินกับมาหน้ามหาวิทยาลัยอีกที พิกัดที่บอกว่าจะเป็นร้าน School Food แปลงร่างเป็น De Chocolate ไปแล้ว และตอนนี้ร่างกายเรียกร้องอาหารหนักรุนแรงเลยเดินไปหาร้านที่ถูกชะตา คล้ายๆกับว่าเราจะเป็นคนชอบถูกชะตากับร้านที่หน้าตา local มากกว่าร้านแฟนซีน่ารักค่ะเข้าซอยนั้นออกซอยนี้อยู่พักนึงก็ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งทานที่ร้านหน้าตาบ้านๆร้านนึง .. โชคดี เจอร้านอร่อยอีกแล้ว ㅠㅠ .. แต่ให้มาอีกก็ไม่รู้จะมาถูกไหม แป่ว~

ระหว่างที่เราแง้บๆบิบิมบับอย่างอร่อย อาจุมม่าเดินผ่านไปพูดอะไรซักอย่าง น่าจะ”อาหารอร่อยไหม”หรือ”กินให้อร่อยนะ”นี่แหละ เราก็เงยหน้าขึ้นมาจากชามข้าวแล้วยกนิ้วโป้งให้อาจุมม่า แบบว่าเพิ่งตักข้าวใส่ปากไป ข้าวเต็มปากพูดไม่ได้แต่อยากจะบอกว่าอร่อยค่ะ อาจุมม่าเลยหัวเราะเอิ้กเลย T///////////T

20120913-121810.jpg

Myeongdong Cathedral
Address : Seoul-si Jung-gu Myeongdong 2-ga 1
How to go : Subway Line 4 ลงที่ Myeongdong Station, Exit 6 7 8 หรือ Subway Line 2 ลงที่ Euljiro-1 (il)-ga Station, Exit 5 6
Operating hours : 09:00 – 21:00 hrs (except the Cathedral)

เรากลับมามยองดงก็ค่ำแล้ว แต่ร้านรวงยังเปิดเลยตัดสินใจว่าจะซื้อของตามใบสั่งเลยก่อนจะไปมีเวลา ส่วนเรื่องจะขนกลับไปที่พักสุดท้ายยังไงน่ะอีกเรื่องนึง ร่างที่มีแรงจากบิบิมบัมของอาจุมม่าเลยถือร่มเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้มาจนสุดหลังมยองดงแล้วก็ตัดสินใจเลี้ยวไปคาธีดรอลซักหน่อย

ใครที่เป็นละครเกาหลีอาจจะคุ้นๆเพราะคาธีดรอลนี้เป็นฉากนึงใน You are beautiful ที่มีกึนซอก ชินเฮ ฮงกิ และยงฮวานำแสดง เราเองก็จำไม่ได้หรอกค่ะว่าเป็นตอนไหนของละครและถ่ายทำที่ส่วนไหนของโบสถ์ เพราะที่เราอยากไปมันไม่ได้เกี่ยวกับละคร 55′ ที่จริงแล้วความสำคัญของมยองดงคาธีดรอลเป็นเพราะคาธีดรอลนี้เป็นโบสถ์ของนิกายแคทอลิคของเกาหลีและเป็นสัญลักษณ์ของมยองดง อยู่ใกล้ขนาดนี้ก็เดินไปดูซะหน่อย ทั้งเปียกๆแฉะๆนี่แหละแต่ศรัทธาล้นเหลือนี่ .. ได้ข่าวว่านับถือพุทธ -_-”

โบสถ์ตอนกลางคืนนี่เงียบบอกไม่ถูก ด้วยแสงไฟน้อยๆจากภายในเพียงนั้นเลยทำให้ดูศักดิ์สิทธิ์ไปใหญ่เลยค่ะ เราเดินเข้าไปภายใน แม้จะมีคนมาสวดมนต์อยู่บ้างแต่ก็เงียบกริบ เงียบจนไม่กล้ากดชัตเตอร์อีกแล้ว แต่ก็ถ่ายมาแล้วย่องออกมาให้เบาที่สุด กล้าหายใจเต็มปอดก็ตรงพ้นประตูโบสถ์มาแล้วนี่ล่ะค่ะ

20120913-122103.jpg20120913-122147.jpg20120913-122241.jpg

20120913-122444.jpg

20120913-122530.jpg

เราเดินรอบๆโบสถ์หนึ่งรอบก่อนจะเดินกลับมาที่พัก วันนี้เราตั้งใจว่าจะนอนเร็วกว่าปกติค่ะ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไป DMZ และ JSA ไปสุดเขตชายแดนเกาหลีเลยทีเดียวค่ะ ^^

ใส่ความเห็น